มีน้องที่เป็นแม่ค้าออนไลน์ท่านหนึ่งเพิ่งมาเล่าให้ฟังว่า
‘มีคนพูดว่า... การทำระบบตัวแทน ไม่เหมาะกับการยิง Ads’
พอฟังปุ๊บแทบอยากจะกุมขมับทันที...
ในมุมมองของผม การยิง Ads หาตัวแทนช่วยให้แบรนด์โตได้ไวมาก
ทั้งในเรื่องกลุ่มตัวแทนใหม่ ๆ และความคุ้มค่าในการลงทุนค่า Ads
เพราะการหาตัวแทนเป็นการหา ‘ช้างเผือก’ ที่จะสร้างยอดขายหลักแสนหลักล้าน
แบบที่เราไม่ต้องมีเยอะให้ปวดกบาล เอาแค่ 5 คน ตัวเต็ง ๆ ก็อิ่มแล้ว
(เจ้าของแบรนด์ที่ทำมาสักพักหนึ่ง จะรู้ดีว่า Dealer หลักแค่ไม่กี่คน ก็พอจะทำยอดหลักหลายล้านต่อเดือนได้แล้ว)
ถ้าคำนวณด้วย Paretosnumber (กฎ 80:20)
คือสมมติว่าเราได้ลูกค้าที่มาซื้อกินซื้อใช้ จากการยิง Ads 50 คน
แล้วจาก 20% ในนั้นคือ 10 คน เค้าเปลี่ยนมาเป็นตัวแทน เราจะได้ยอดสั่งซื้อ
หลักหลายพัน หรือหลักหมื่นในช่วงต้นทันที… จากนั้นเวลาผ่านไป
ตัวแทนเก่งขึ้น 2 ใน 10 (20% เหมือนเดิม) ของคนที่มาเป็นตัวแทน
มี Performance ดี เก่ง ขยัน เป็นดาวรุ่งยอดพุ่งแรง เค้าจะสามารถทำยอดหลักแสนต่อเดือนให้เราได้สบาย ๆ เลย
แล้วพอกลับมาถามคำถามเดิม
มันจะไม่เหมาะตรงไหน ? ที่เราจะยิง Ads หาตัวแทน
(สรุปคือสมมติว่าได้ตัวแทนเก่ง ๆ จาก 2 ใน 50 มันก็เท่ากับแค่ 4% จากจำนวนลูกค้าที่มาซื้อกินในตอนแรกเอง)
ผมเชื่อว่า ณ ตอนนี้ การยิง Ads ในระบบตัวแทนยังเหมาะกับยุค Ads แพงด้วย
เพราะค่า Ads จ่ายจบไปตั้งแต่ลากเค้ามาเป็นตัวแทนแล้ว (ที่เหลือก็จ่ายค่าส่วนแบ่ง Support อะไรกันไป)
เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่แบรนด์หนึ่งจะขายของกินของใช้ ให้กับ End Users ได้เป็นแสนบาทในชาตินี้
โดยส่วนตัวมองว่าระบบตัวแทนนี่แหละคุ้มกับการยิง Ads มากกว่าระบบขายเองด้วยซ้ำ
จ่ายเงินเพื่อได้เงินเป็นครั้ง กับจ่ายเงินเพื่อได้ยอดขายระยะยาว ๆ
มันก็อยู่ที่เราว่ามองการคืนทุนเอาไว้ในระยะเวลากี่เดือนเท่านั้นเอง
ป.ล. อย่าคิดว่าเค้าจะมาเป็นตัวแทนโดยที่ไม่รู้จักเราเหรอ ?
ทำให้น่าเชื่อถือ ตั้งใจคุยกับเค้าจริง ๆ ไม่ใช่แค่คาดหวังการตอบตกลงจากแค่ 3 ประโยค
แต่ให้คุยเหมือนอยากรู้จักเค้าจริง ๆ เดี๋ยวมันก็ได้เอง Success Rate จะสูงเหยียบ 50% ด้วยซ้ำไปครับ
‘มีคนพูดว่า... การทำระบบตัวแทน ไม่เหมาะกับการยิง Ads’
พอฟังปุ๊บแทบอยากจะกุมขมับทันที...
ในมุมมองของผม การยิง Ads หาตัวแทนช่วยให้แบรนด์โตได้ไวมาก
ทั้งในเรื่องกลุ่มตัวแทนใหม่ ๆ และความคุ้มค่าในการลงทุนค่า Ads
เพราะการหาตัวแทนเป็นการหา ‘ช้างเผือก’ ที่จะสร้างยอดขายหลักแสนหลักล้าน
แบบที่เราไม่ต้องมีเยอะให้ปวดกบาล เอาแค่ 5 คน ตัวเต็ง ๆ ก็อิ่มแล้ว
(เจ้าของแบรนด์ที่ทำมาสักพักหนึ่ง จะรู้ดีว่า Dealer หลักแค่ไม่กี่คน ก็พอจะทำยอดหลักหลายล้านต่อเดือนได้แล้ว)
ถ้าคำนวณด้วย Paretosnumber (กฎ 80:20)
คือสมมติว่าเราได้ลูกค้าที่มาซื้อกินซื้อใช้ จากการยิง Ads 50 คน
แล้วจาก 20% ในนั้นคือ 10 คน เค้าเปลี่ยนมาเป็นตัวแทน เราจะได้ยอดสั่งซื้อ
หลักหลายพัน หรือหลักหมื่นในช่วงต้นทันที… จากนั้นเวลาผ่านไป
ตัวแทนเก่งขึ้น 2 ใน 10 (20% เหมือนเดิม) ของคนที่มาเป็นตัวแทน
มี Performance ดี เก่ง ขยัน เป็นดาวรุ่งยอดพุ่งแรง เค้าจะสามารถทำยอดหลักแสนต่อเดือนให้เราได้สบาย ๆ เลย
แล้วพอกลับมาถามคำถามเดิม
มันจะไม่เหมาะตรงไหน ? ที่เราจะยิง Ads หาตัวแทน
(สรุปคือสมมติว่าได้ตัวแทนเก่ง ๆ จาก 2 ใน 50 มันก็เท่ากับแค่ 4% จากจำนวนลูกค้าที่มาซื้อกินในตอนแรกเอง)
ผมเชื่อว่า ณ ตอนนี้ การยิง Ads ในระบบตัวแทนยังเหมาะกับยุค Ads แพงด้วย
เพราะค่า Ads จ่ายจบไปตั้งแต่ลากเค้ามาเป็นตัวแทนแล้ว (ที่เหลือก็จ่ายค่าส่วนแบ่ง Support อะไรกันไป)
เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่แบรนด์หนึ่งจะขายของกินของใช้ ให้กับ End Users ได้เป็นแสนบาทในชาตินี้
โดยส่วนตัวมองว่าระบบตัวแทนนี่แหละคุ้มกับการยิง Ads มากกว่าระบบขายเองด้วยซ้ำ
จ่ายเงินเพื่อได้เงินเป็นครั้ง กับจ่ายเงินเพื่อได้ยอดขายระยะยาว ๆ
มันก็อยู่ที่เราว่ามองการคืนทุนเอาไว้ในระยะเวลากี่เดือนเท่านั้นเอง
ป.ล. อย่าคิดว่าเค้าจะมาเป็นตัวแทนโดยที่ไม่รู้จักเราเหรอ ?
ทำให้น่าเชื่อถือ ตั้งใจคุยกับเค้าจริง ๆ ไม่ใช่แค่คาดหวังการตอบตกลงจากแค่ 3 ประโยค
แต่ให้คุยเหมือนอยากรู้จักเค้าจริง ๆ เดี๋ยวมันก็ได้เอง Success Rate จะสูงเหยียบ 50% ด้วยซ้ำไปครับ