ถ้าว่าด้วยเรื่อง Content มีแบบไหน ต้องทำยังไงบ้าง
คงต้องใช้เวลาเท่ากับที่เราว่าจักรวาล Marvel นั้น
ประเด็นก็คือ Content สำหรับการขาย กับ Content สำหรับการ PR
มันไม่เหมือนกัน บางทีการปิดการขายก็เหมือนการล้มช้าง
เพราะลูกค้าก็ยิ่งใหญ่ขึ้นทุกวัน ๆ เพราะคนขายมีเยอะขึ้น
คนซื้อไม่ได้โตตาม อำนาจต่อรองก็ย้ายฝั่งทันที
“ยอดขาย” สมัยนี้ไม่ได้มาง่าย ๆ ลูกค้าไม่ได้เชื่อ
แต่ถูกกระตุ้นด้วยโฆษณาทุกวัน Content ที่ถูกแชร์เยอะ
อาจจะไม่ได้นำมาซึ่งยอดขายเสมอไป
และนี่คือ Content 3 แบบ ที่เราควรจะยิงออกไปหาลูกค้าครับ
1 ) Selling point
เหตุผลที่ข้อนี้ต้องเป็นข้อแรกที่ผมให้ความสำคัญ
ก็เพราะว่า ไม่มีประโยชน์(ในทางการขาย) ที่เราจะสร้างความน่าเชื่อถือ
กับคนที่ไม่ต้องการสินค้าของเรา
สรรพคุณของสินค้าตัวหนึ่งไม่เคยมีอย่างเดียว
แต่ในความเป็นจริง ลูกค้าใช้ประเด็นเดียวตัดสินใจซื้อ
อาจจะแค่ 10% ของตัวหนังสือทั้งหมดใน Brochure ก็เป็นไปได้
ประเด็นก็คือ ณ ตอนนี้เรารู้หรือเปล่าครับ
ว่าประโยคไหน คำไหนช่วยปิดการขายให้เรามาตลอด
ไม้ตายของเราคือ ข้อความไหนกัน?
ไม่ว่าเราจะเขียน จะออกแบบรูป หรือจะอัคคลิปวิดีโอ
ถ้าเรารู้จุดขายได้แล้ว ให้เอาจุดขายเติมลงไปในทุกสื่อที่เรามี
เช่น เร็วกว่า
มีให้เลือกมากกว่า
ผ่อนได้นานกว่า
บริการดีกว่า
มีการันตีตลอดายุการใช้งาน
ดูง่าย ๆ ครับ ถ้าจุดขายไหนสามารถบรรเทา Pain point ของลูกค้าได้
อันนั้นแหละครับ จุดขายที่ทรงพลัง “และเราต้องพูดถึงมันทุกครั้งที่หวังยอดขาย”
2 ) Review
Word of mouth คือโฆษณาฟรีที่ทรงพลังที่สุด
เป็นกระบวนการขายจาก "ลูกค้าสู่ลูกค้า"
มันเป็นคำแนะนำจากคนที่เสียเงินแล้ว เพื่อเชียร์หรือเตือนคนที่กำลังตัดสินใจ
***จุดสำคัญของ Review ก็คือ การเล่าแต่ละฟังก์ชั่นของสินค้าให้ฟัง
มันจะไปเติมมิติในด้านความน่าเชื่อถือ (Trust) แก่ลูกค้า
และเพิ่มความเข้าใจต่อตัวสินค้าครับ
เชื่อผมได้เลยว่าโฆษณาต่อให้นานเป็น 10 นาที
ก็ไม่สามารถทำให้ลูกค้าจดจำข้อมูลทุกอย่างได้หมด
คงต้องใช้เวลาเท่ากับที่เราว่าจักรวาล Marvel นั้น
ประเด็นก็คือ Content สำหรับการขาย กับ Content สำหรับการ PR
มันไม่เหมือนกัน บางทีการปิดการขายก็เหมือนการล้มช้าง
เพราะลูกค้าก็ยิ่งใหญ่ขึ้นทุกวัน ๆ เพราะคนขายมีเยอะขึ้น
คนซื้อไม่ได้โตตาม อำนาจต่อรองก็ย้ายฝั่งทันที
“ยอดขาย” สมัยนี้ไม่ได้มาง่าย ๆ ลูกค้าไม่ได้เชื่อ
แต่ถูกกระตุ้นด้วยโฆษณาทุกวัน Content ที่ถูกแชร์เยอะ
อาจจะไม่ได้นำมาซึ่งยอดขายเสมอไป
และนี่คือ Content 3 แบบ ที่เราควรจะยิงออกไปหาลูกค้าครับ
1 ) Selling point
เหตุผลที่ข้อนี้ต้องเป็นข้อแรกที่ผมให้ความสำคัญ
ก็เพราะว่า ไม่มีประโยชน์(ในทางการขาย) ที่เราจะสร้างความน่าเชื่อถือ
กับคนที่ไม่ต้องการสินค้าของเรา
สรรพคุณของสินค้าตัวหนึ่งไม่เคยมีอย่างเดียว
แต่ในความเป็นจริง ลูกค้าใช้ประเด็นเดียวตัดสินใจซื้อ
อาจจะแค่ 10% ของตัวหนังสือทั้งหมดใน Brochure ก็เป็นไปได้
ประเด็นก็คือ ณ ตอนนี้เรารู้หรือเปล่าครับ
ว่าประโยคไหน คำไหนช่วยปิดการขายให้เรามาตลอด
ไม้ตายของเราคือ ข้อความไหนกัน?
ไม่ว่าเราจะเขียน จะออกแบบรูป หรือจะอัคคลิปวิดีโอ
ถ้าเรารู้จุดขายได้แล้ว ให้เอาจุดขายเติมลงไปในทุกสื่อที่เรามี
เช่น เร็วกว่า
มีให้เลือกมากกว่า
ผ่อนได้นานกว่า
บริการดีกว่า
มีการันตีตลอดายุการใช้งาน
ดูง่าย ๆ ครับ ถ้าจุดขายไหนสามารถบรรเทา Pain point ของลูกค้าได้
อันนั้นแหละครับ จุดขายที่ทรงพลัง “และเราต้องพูดถึงมันทุกครั้งที่หวังยอดขาย”
2 ) Review
Word of mouth คือโฆษณาฟรีที่ทรงพลังที่สุด
เป็นกระบวนการขายจาก "ลูกค้าสู่ลูกค้า"
มันเป็นคำแนะนำจากคนที่เสียเงินแล้ว เพื่อเชียร์หรือเตือนคนที่กำลังตัดสินใจ
***จุดสำคัญของ Review ก็คือ การเล่าแต่ละฟังก์ชั่นของสินค้าให้ฟัง
มันจะไปเติมมิติในด้านความน่าเชื่อถือ (Trust) แก่ลูกค้า
และเพิ่มความเข้าใจต่อตัวสินค้าครับ
เชื่อผมได้เลยว่าโฆษณาต่อให้นานเป็น 10 นาที
ก็ไม่สามารถทำให้ลูกค้าจดจำข้อมูลทุกอย่างได้หมด
