4 คุณสมบัติที่ต้องฝึกไว้ ก่อนจะก้าวไปเป็นแม่ทีม


Blog Detail

 
ถ้าวันนี้คุณยังเป็นตัวแทน
แต่สายตานั้นเล็งไว้แล้วว่า...
 
“อีกไม่นานฉันจะต้องเติบโต”
 
จะต้องก้าวไปเป็นแม่ทีม
นำฝูงบินเป็นของตัวเอง
 
คุณจะต้องรู้เรื่องนี้ไว้ก่อนเลยครับ
 
เพราะแม้การมีทีมเป็นของตัวเอง
จะช่วยคูณยอดขายได้มากขึ้น
คว้าความสำเร็จและความภูมิใจ
ในขนาดที่ใหญ่ขึ้น
 
ก็ต้องบอกเลยนะครับว่า
ระหว่างทางมันไม่ได้ง่ายราบรื่นอย่างแน่นอน
คุณต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่างเสมอ
 
ซึ่งการที่คุณจะเข้าแลกได้สำเร็จนั้น
ก็ต้องการคุณสมบัติแบบที่แม่ทีมเค้ามีกัน
 
และนี่คือ 4 คุณสมบัติ”
ที่คุณต้องเตรียมไว้ให้พร้อม
ก่อนจะก้าวไปเป็นแม่ทีมครับ
 
 
1) มีจิตวิญญาณ “จ่าฝูง”
 
เมื่อถึงวันที่คุณเป็นแม่ทีม
คราวนี้จะไม่ใช่แค่การรับผิดชอบ
เฉพาะยอดขายและการบริหารจัดการ
ของคุณคนเดียวอีกแล้วนะครับ
 
คุณจะต้องดูแลภาพรวมทั้งหมด
เพื่อให้ทุกคนทำยอดขายไปได้ดีด้วย
 
เพราะตรงตำแหน่งที่คุณยืนอยู่
เป็นจุดที่ต้องพร้อมรับปัญหาได้ทุกอย่าง
 
มีปัญหาอะไรเข้ามา ใครติดอะไรตรงไหน
ก็ต้องนำหน้าเข้าไปเป็นเบอร์ 1
 
คอยนำทางให้กับลูกทีม
ลงไปล้วงให้ถึงปัญหา
และช่วยหาทางจัดการแก้ให้ได้
 
ดังนั้นสมญาคำว่า “จ่าฝูง”
จึงเหมาะที่สุดแล้วที่จะสะท้อน
ความรับผิดชอบขนาดใหญ่ที่ต้องเผชิญ
 
ด้วยภาวะผู้นำที่ต้องแข็งแกร่งกว่าทุกคน
อยู่หัวแถวนำทางคนอื่นไปข้างหน้า
โดยไม่ทิ้งใครไว้ให้เผชิญปัญหาเพียงลำพัง
 
ไม่ใช่อยากเป็นแม่ทีม
แต่อยากอยู่อย่างสบายเป็นเสือนอนกิน
 
อยากได้ผลสำเร็จทุกอย่าง
แต่ไม่อยากรับผิดชอบอะไรเพิ่มสักอย่าง
 
แบบนี้อีกไม่นาน
คำว่า “แม่ทีม” ก็คงเป็นได้แค่อดีต
ก็ใครเค้าจะอยากอยู่ด้วยต่อไปล่ะครับ
 
 
2) เป็น “นักสื่อสาร” พลังสูง
 
ผู้นำต้องเป็นเหมือน GPS
ปักหมุดเป้าหมายที่จะไป
วางแผนที่นำทางให้ทุกคนในทีมได้
 
และการจะไปให้ถึงเป้าหมายนั้น
นอกจากอาศัยวิธีการในภาคปฏิบัติแล้ว
ก็ต้องอาศัยสภาวะทางจิตใจควบคู่กันด้วย
 
ทีมคุณคงจะก้าวขาแบบไร้พลัง
ถ้าคนนำไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงกระตุ้นใคร
 
ดังนั้นทักษะที่ผู้นำต้องฝึกก็คือ “การพูด” ครับ
ในที่นี้ผมขอย้ำว่า ‘ต้องฝึก’ เท่านั้นเลยนะครับ
 
เพราะคุณอาจไม่ค่อยแข็งแรงในบางเรื่องได้
แต่สำหรับตำแหน่งของผู้นำจะอ่อน
ในเรื่อง “การสื่อสาร” ไม่ได้เด็ดขาด
 
เมื่อถึงวันที่เป็นแม่ทีมแล้ว
คุณต้องท่องจำให้ขึ้นใจเลยว่า
จะไม่มีใครปลุกพลังลูกทีมได้ดีไปกว่าคุณ
 
เพราะในโลกนี้ไม่มีผู้นำคนไหน
ที่นำแต่เรื่องวิธีการทำงานเท่านั้น
แต่เค้าต้องเป็นผู้นำในการ Motivate
สร้างแรงจูงใจให้ฮึกเหิมได้ด้วย
 
ก็เข้าใจนะครับว่ามันอาจไม่ใช่สิ่งที่
ใครจะถนัดไปหมดทุกคน
 
แต่ถ้าคุณเลี่ยงที่จะฝึกเรื่องนี้
แล้วดันโยนหน้าที่นี้ให้เป็นของคนอื่น
ในสายตาของลูกทีมจะมองว่าคน ๆ นั้น
เป็นผู้นำทางจิตใจแทนคุณทันทีครับ
 
 
3) มีสายตาเฉียบคม คัดคนเฉียบขาด
 
ไม่ใช่ว่าใครมาสมัครเป็นตัวแทน
คุณก็อ้าแขนรับไว้หมดนะครับ
 
มีเยอะ ๆ ไว้ก่อนจะได้มาช่วยกันขาย
บางทีมันก็ไม่ตอบโจทย์เสมอไป
 
ตรงนี้ต้องชั่งน้ำหนักให้ดีระหว่าง
“จำนวน” กับ “คุณภาพ”
 
โดยผมขอแนะนำว่ามุ่งให้น้ำหนัก
กับเรื่องของคุณภาพมาก่อนครับ
 
คุณจะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนเข้ามาแล้ว
จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนไปข้างหน้า
ไม่ใช่ภาระคอยถ่วงทีม
 
เพราะไม่ใช่ทุกคนที่มีเงินเปิดบิล
แล้วจะปิดยอดได้ตัวเลขที่น่าประทับใจ
 
ไม่ใช่ทุกคนที่มีพื้นฐาน มีประสบการณ์
แล้วจะเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี
 
และไม่ใช่ทุกคนที่มีทัศนคติ
พร้อมที่จะเรียนรู้พัฒนาตัวเอง
 
คุณจึงเลือกใครจากความชอบ
จากความเก่งที่เค้าเล่า จากความถูกคอกัน
หรือมีเงินเปิดบิลเป็นถัง ๆ แค่นั้นคงไม่ได้
 
แต่ต้องรู้จักทดสอบคนให้เป็น
วัดทักษะและผลลัพธ์เค้าให้ได้
ว่ามีพัฒนาการมากน้อยแค่ไหน
 
วัดทัศนคติและวิธีคิดของเค้าให้ออก
ว่าเค้าพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ
และเชื่อมั่นว่าจะต้องทำได้ไหม
 
เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเลือกคนมาผิด
คนที่ต้องกุมหน้าผากคิดหนัก
ก็จะเป็นคุณเองนี่แหละครับ
 
 
4) มีศิลปะในการสอนคน
 
ทุกวันนี้ที่คุณขายเก่งอยู่แล้ว
แต่ถ้าไปสอนคนอื่นให้ขายเก่งแบบเดียวกัน
บางทีอาจเป็นเรื่องที่ยากกว่าก็ได้นะครับ
 
ศิลปะในการสอนคน
จึงเป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ
 
เพราะถ้าคุณทำตรงนี้ได้ดี
ถ่ายทอดวิชาเก่ง เทรนคนให้เป็นไว
จนเค้าทำยอดขายได้ไม่แพ้คุณ
 
สิ่งนี้มันจะเป็นประโยชน์
ต่อตัวคุณเองในระยะยาวครับ
 
ลองคิดดูว่าถ้าคุณมีลูกทีมสัก 10 คน
แต่ละคนไม่ Get ในสิ่งที่คุณสอนเลย
 
แทนที่คุณจะได้มือดีมาช่วย x10
ช่วยกันทำยอดขายได้ x10 กลายเป็น
คุณต้องเสียเวลาเพิ่ม x10 แทน
 
ดังนั้นก่อนที่จะให้คนอื่นมาเรียนรู้จากคุณ
คุณก็ต้องเรียนรู้วิธีการสอนที่ได้ผลก่อนครับ
 
ว่าจะต้องใช้วิธีไหน มีเทคนิคยังไง
คอยประกบแค่ไหน เค้าถึงจะเข้าใจ
เห็นภาพ ตกผลึกไปทำเองได้
 
และเมื่อลูกทีมเก่งแล้ว ลุยเองเป็นแล้ว
คุณก็จะเหนื่อยน้อยลง ในขณะที่มีคน
ช่วยปั้นยอดขายเพิ่มมากขึ้นด้วยครับ
 
...................................
 
เป็นแม่ทีมนั้นไม่ง่ายครับ บอกเลย
 
จากที่ให้คำปรึกษามามากมาย
และประสบการณ์คุมทีม
ตลอดชีวิตการทำงานของผมเอง
 
จึงอยากฝากถึงคุณที่คิดจะเติบโต
ว่าให้เตรียมตัวสำหรับสิ่งเหล่านี้ไว้
 
ฝึกตัวเองตั้งแต่วันนี้ ทั้งวิธีคิดและทักษะ
 
เพื่อเมื่อวันนั้นมาถึง
คุณจะได้ก้าวขึ้นไปเป็นแม่ทีม
ที่มีคุณสมบัติพร้อมแล้วจะรับมือ
กับความรับผิดชอบทุกอย่างครับ