5 เคล็ดลับทำคลิปวิดีโอ ให้ยอดขายโต ลูกค้ากระหน่ำซื้อ

คุณแน่ใจแล้วเหรอครับ ที่จะทำคลิปวิดีโอขายของ ?

Blog Detail

5 เคล็ดลับทำคลิปวิดีโอ 

ให้ยอดขายโต ลูกค้ากระหน่ำซื้อ 



คุณแน่ใจแล้วเหรอครับ

ที่จะทำคลิปวิดีโอขายของ ?



เพราะแม้มันจะดึงความสนใจลูกค้าได้

แต่ผมต้องขอบอกตรงนี้เลยว่า

การทำคลิปวิดีโอนั้นมีค่าใช้จ่าย

สูงขึ้นว่าการถ่ายรูป

การทำคลิปวิดีโอจะกินเวลา

ในการทำที่เยอะกว่า

และคลิปวิดีโอ เมื่อโพสท์ออกไปแล้ว

แก้ไขใหม่ได้ยากกว่า Artwork



ดังนั้นถ้าจะทำจริง ๆ ต้องดูให้รอบคอบ

ครอบคลุมไปถึงวิธีนำเสนอที่ได้ผล

เพราะขึ้นชื่อว่า “การนำเสนอขาย”

จะด้วยรูปแบบไหน ก็ต้องพุ่งเป้าไปที่ 

“จุดขาย” เป็นหลัก

วิดีโอนี่ก็ด้วยเหมือนกันครับ

ถ้าจะโน้มน้าวใจลูกค้า 

รวมถึงเงินในกระเป๋าของเค้าได้

คลิปวิดีโอของคุณต้องโชว์ถึงสิ่งเหล่านี้




1. โชว์ Performance




สินค้าที่มีจุดขายในเชิง Function

ที่ทำได้อย่างรวดเร็ว พละกำลังเยอะ

แป๊บเดียวก็เสร็จ ไม่กี่วินาทีก็ได้แล้ว

บดสับได้ละเอียด เหยียบนิดเดียวก็ถึง

ซึ่งวิธีนี้คุณจะได้เห็นบ่อยทีเดียว

ตามรายการทีวีโฮมช็อปปิ้ง

รายการรถยนต์ และโฆษณาบางตัว

ประสิทธิภาพต่าง ๆ นานาที่น่าโชว์

ควรอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายต่อเนื่อง

แล้วให้ลูกค้าตัดสินมันด้วยตาตัวเองครับ




2. โชว์ผลลัพธ์ประจักษ์สายตา




ที่จริงเคสลักษณะนี้ผมก็พูดถึง

บ่อยเลยเหมือนกันครับ

เพราะบางครั้งการทำให้ลูกค้าเห็น 

แล้วรอดูผลเดี๋ยวนั้นเลย

ก็เป็นประจักษ์พยานที่ดีที่สุด

ถ้าจะบอกจุดขายกับลูกค้าว่า

ทำความสะอาดหมดจด

วิธีที่ชัดที่สุด ก็คงต้องเช็ดให้เห็น

โดยไม่ต้องพูดอะไรเยอะ

เอาให้ดูไปเลยว่าคราบหลุดติดสำลี

ออกมาหนาเป็นเซนติเมตร 

โดยไม่หลงเหลืออะไรทิ้งไว้เลย

หรืออะไรทำนองนี้กับลักษณะอื่น

ในแบบ “Show, Don’t Tell”

นั่นแหละครับปิดการขาย

ด้วยตาของลูกค้าเองไปเลย 




3. โชว์ความง่าย ใช้สะดวก




ไม่ว่าใครก็ชอบความง่ายทั้งนั้น

อะไรที่ดีพอกัน แต่ใช้ง่ายกว่า

ดูแลรักษาง่ายกว่า พกพาง่ายกว่า

ย่อมน่าสนใจมากกว่าครับ


ถ้าสินค้าของคุณใช้ง่าย

โชว์วิธีใช้ให้ดูสิครับ

ว่ากดแค่ปุ่มเดียวก็ทำงานเองแล้ว

ไม่ต้องอ่านคู่มือ หัดไม่เกิน 5 นาที

เด็ก ๆ 10 ขวบยังใช้คล่องเลย



ถ้าสินค้าของคุณพกพาง่าย

โชว์ให้เห็นว่า หิ้วตัวปลิวขึ้นรถไฟฟ้า

หรือยกสะดวก ลากเลื่อนไปได้ทุกที่

ผู้หญิงตัวคนเดียวยังเอาอยู่สบาย



ถ้าสินค้าของคุณดูแลรักษาง่าย

ก็โชว์ได้เลยว่าเช็ดทีเดียวก็หาย

ผ่านน้ำวูบเดียวก็สะอาด

เป่านิดเดียวก็แห้ง แถมเก็บก็ง่าย




4. โชว์ความอึด ถึก ทน




ลูกค้าอาจจะจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง

ว่าสินค้าของคุณทำมาจากอะไร

เสริมเหล็กกล้าสักกี่สิบชั้น

แต่ถ้าเค้าได้เห็นว่ารถทับ

ก็แม่เป็นอะไรเลย

ตกลงมาจาตึก 4 ชั้นก็ไม่แตก

ฟาดกระแทกกลางลำก็ไม่หัก

โดนความร้อนไม่ลอก สีไม่ร่อน

ไม่เป็นรอยง่าย ไม่สะทกสะท้าน

หรือใช้ต่อเนื่องเกิน 24 ชั่วโมง

แบตก็ยังไปต่อได้ เมื่อเทียบกับ

อีกแบรนด์หนึ่ง

โชว์จะ ๆ ขนาดนี้ บอกเลยครับว่า

แค่นี้ก็คุ้มค่าน่ามีไว้สักอันที่บ้านแล้ว 




5. โชว์ Story ที่มี Value




เรื่องเล่าความเป็นมา

กว่าจะมาเป็นสินค้าในมือคุณ

การหามาได้ยาก ต้องไปเฉพาะพื้นที่

โอโซนบริสุทธิ์ของโลกเท่านั้น 

การทดลองนับร้อยครั้ง 

ใช้เวลากว่า 5 ปี ใช้ทุนไป 8 หลัก

ขั้นตอน กรรมวิธีการผลิตที่ประณีต 

ควบคุมความสะอาดอย่างหนาแน่น 

ห้องแลปมาตรฐานปลอดภัยระดับสูง

หรือแม้แต่เรื่องเล่า แรงบันดาลใจ

ตำนาน ประวัติความเป็นมา

ที่มาที่ไปที่ไม่ธรรมดา ที่ช่วยสร้าง Value

เล่า Story เหล่านี้ออกมา

สินค้าและแบรนด์ของคุณจะแตกต่าง

โดดเด่นขึ้นเหนือคนอื่นเลยล่ะครับ



การนำเสนอทุกรูปแบบมีจุดเด่น

ในตัวมันเองทั้งสิ้น


สิ่งสำคัญคือการจับ “จุดขาย” 

และ “จุดต่าง” ของสินค้าคุณเองให้ออก


นำเสนอจุดนั้นให้มันโดนลูกค้า

ใน Condition ที่เค้ามองหา


แล้วการลงทุนทุกบาททุกสตางค์

ในการทำตัวคอนเทนต์และยิงโฆษณา

จะตีกลับมาคุ้มค่าอย่างแน่นอนครับ