ภาษาขายแบบไหนที่ “คนซื้อ” ชอบอ่าน & โอนไว
“คำคน” จะมีราคาเท่าไหร่ “คนพูด” เป็นผู้เลือก
อย่าเพิ่งรีบถอดใจ ว่าคนซื้อจะ “ไม่ซื้อ” จากการพูดคุยเพียงไม่กี่ประโยค
แต่ก็อย่าชะล่าใจไป ว่าคนถามเก่ง ซักละเอียดยิบ ดูรูปสินค้าทุกซอกทุกมุม
แล้วจะจบด้วย “การซื้อ” เสมอไป
เพราะศิลปะแห่งการพูดคุย ไม่ว่าจะต่อหน้า ลับหลัง ในแชต ในไลน์ ในอินบ็อกซ์ ฯลฯ
“พลังคำคน” ล้วนส่งสารไปถึง “ผู้อ่าน” ได้ทั้งนั้นนะฮะ
ทุกคำที่ถูกส่งออกไป เมื่อกด Send แล้วไม่อาจดึงกลับมาได้
ล้วนมีพลังที่จะเปลี่ยน “คนอ่าน” เป็น “คนซื้อ”
และก็เปลี่ยน “คนอยากซื้อ” เป็น “คนไม่อยากซื้อ” ก็ได้
แล้วภาษาแบบไหน ? ที่คนซื้อชอบอ่าน
ส่วนคนอ่านอ่านปุ๊บ อยากโอนปั๊บ ?
ผมคิดว่า… คือภาษาขายต่อไปนี้ คือภาษาที่ผ่านการเคี่ยวเอารสขมออก
จนเหลือแต่รสหวานพอดีคำผ่านการกลั่นกรองหลายชั้น
ก่อนจะถูกโพสต์ลงสู่หน้าฟีดบนเฟซบุ๊กของคุณ
5 ภาษาขายง่าย ๆ ใครก็ชอบอ่าน
ทะลวงใจคนซื้อ ไม่ต้องใช้แมคโครขุด
1) ภาษา “คนรู้ใจ”
การอยู่ห่างอย่างทิ้งระยะ ระหว่างคนซื้อ - คนขาย นั้น เป็นเรื่องที่ดีนะ
แต่ผมคิดว่าการที่เราขยับเข้าไปใกล้อีกนิด อีกนิด เหมือนญาติห่าง ๆ ที่นาน ๆ จะเจอกันสักครั้ง
พูดคุยกันแต่เรื่องสำคัญ ผมว่าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมดี
กับการงัดภาษา “คนรู้ใจ” ออกมาใช้ โดยเฉพาะตอนที่ผู้ซื้อกำลังมีระดับ “ความอยาก” ค่อนข้างสูง
เช่น พี่อยากให้สิวหายไว ๆ จังเลยค่ะ…
เมื่อไหร่ที่ลูกค้าปล่อยความ “อยาก” ให้เรารู้ นั่นเท่ากับว่าลูกค้ากำลังชี้โพรงให้แม่ค้าอย่างเรา
วิ่งเข้าให้ถูกรู ไปคว้าธงชัยให้ไว
ภาษาคนรู้ใจชนิดง่ายดายที่สุดก็คือต้องสนอง Need ได้ตรงเป๊ะฮะ
คือ รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ? อยากได้อะไร ? สินค้าของเราช่วยเค้าได้อย่างไร ?
2) ภาษา “คนรู้ทัน”
เป็นแฟนกัน รู้ทันกันแล้วอยู่รอด “ก็มี”
แฟนกัน รู้ทันกันแล้วเป็นได้แค่เพื่อน “ก็มี”
แต่ถ้า “คนขาย” รู้ทัน “คนซื้อ” เมื่อไหร่ โอกาสปิดการขาย โอนไว = ก็มีมากขึ้นตามนั้นฮะ
อย่างเช่น ถ้าลูกค้าไม่ได้บอกความต้องการของตัวเองมาตรง ๆ
เราก็สามารถหาความต้องการของเค้าได้จาก“คำถามที่เราถาม”, “จาก Ads ที่เรายิงออกไป”,
“รูปโปรไฟล์”, “ความชอบที่แสดงให้เห็น” ฯลฯ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา “พูดคุย”
เพื่อหาความต้องการสูงสุดของลูกค้าให้พบ
แล้วเตรียมกระสุนใส่กระบอกซะ ก่อนยิงปิดการขาย “ปั้ง” ว่า…
“ลูกค้าต้องการ xxxx ใช่มั้ยครับ / คะ ?”
เป็นทริกการ “รู้ทัน” อย่างคน “รู้ใจ” เค้าทำกัน เพราะอย่างน้อยรู้ใจเค้า
ก็เป็นการเพิ่มโอกาสสร้างยอดขาย “กว่าการไม่รู้อะไรเลย” ...
3) ภาษา “กาย”
เอ๊ะ ! ถ้าคุยในแชต ในไลน์ คุยผ่านตัวพิมพ์ แล้วจะแสดงภาษากายยังไง ?
คุณคงลืมล่ะสิว่า… “ภาษาไทย” นั้นพลิกแพลงยิ่งกว่าลิ้นที่พูด
การพิมพ์ก็สามารถพลิกแพลง “คำ” ได้ทั้งสิ้น
การพูดคุยแชตไลน์กับลูกค้า จึงต้องอย่าลืมใส่ “ภาษากาย” ลงไปด้วย
เพื่อ “สร้างความรู้สึก” อย่างเช่น ใช้คำโทน “การกระทำ”
เพื่อแสดงถึง “การกระทำ” ที่สินค้าของเรา “สามารถกระทำประโยชน์ /แก้ไขปัญหา” ให้คนซื้อได้
อาทิ กอด ปลอบประโลม ทะนุถนอม ดูแล โอบ รัด ฟัด เหวี่ยง ฯลฯ เพราะคำในกลุ่ม “การกระทำ” เหล่านี้
แค่อ่านก็ “รู้สึก” แทบจะในทันที ว่าสินค้าที่เค้าสนใจ นั้นให้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ?
คุ้มค่า หรือไม่คู่ควร กับเงินที่จะจ่ายออกไป...
4) ภาษา “เข้าใจง่าย”
ภาษาขายไม่ใช่ “คำคม” ไม่ต้องรออารมณ์ก็พิมพ์ออกไปได้
แต่เน้น “ตรงเป้า” เข้าจุด ตอบคำถาม ที่ลูกค้าสงสัย
อย่าตอบวกวนเข้าถ้ำ จนหาทางออกไม่เจอ ผมจะบอกว่า…
ภาษาเข้าใจง่าย เป็นภาษาที่แม่ค้าออนไลน์ “ตกม้าตาย” มากที่สุด
เพราะหลายคนพยายามยัดเยียดความไม่ต้องการให้ลูกค้าต้องการ “มากเกินไป”
อะไรที่คนรับเค้าไม่อยากได้ ก็ไม่ต้องฝืนใจให้ไปเลยฮะ
“คัดสรร” พิมพ์ส่งเฉพาะในสิ่งที่ “คนซื้อต้องการ” ก็พอ
และอย่ารอให้บทสนทนา Dead Air เงียบไปเฉย ๆ เปิดประเด็นลุย คุยต่อให้ได้
เมื่อทุกอย่างคลิก ลงตัว “โอนชัวร์” จะบังเกิดเอง...
5) ภาษา “คน”
เป็นภาษาที่ผมให้ความสำคัญมากที่สุด ไม่แพ้ภาษาอื่น ๆ
เพราะไม่ว่าจะซื้อที่ไหน ก็ต้องอยากคุยกับ “คนขาย” เท่านั้น
เหมือนเวลาไปหาหมอ เราก็อยากเจอหมอ ไม่ได้อยากเจอนางพยาบาล…
แม้ว่านางพยาบาล [บางคน] จะเก่งรอบด้าน แต่เราก็ยังยินดีที่จะนั่งรอเป็นชั่วโมง
เพื่อรอพบหมอตัวจริงเพียง “ไม่กี่นาที”
แต่เรื่องของซื้อของขาย… ไม่มีใคร “รอ” คนขายมาขายของให้
ยาวนานมากสุดแค่ 5 นาที++ ถ้าไม่มีคนมาตอบ ก็เตรียมชิ่งไปร้านอื่นแล้ว
การตอบ ต้องตอบด่วนทันใจ ตอบไว แต่อย่าตอบแค่ “คะ ค่ะ ครับ”
เพราะมันจะทำให้คนซื้อรู้สึกได้ว่า “ไม่ได้รับความใส่ใจเท่าที่ควร”
ทางที่ควรก็คือ… สนใจลูกค้า “ในระดับเท่าเทียมกัน” ไม่ว่าจะลูกค้าหน้าเก่า หรือลูกค้าหน้าใหม่
ต้องตอบไว ตอบเร็ว ตอบภาษา “คน” คุยกัน ไม่ใช่ภาษา “หุ่นยนต์” ไร้หัวใจ
เพราะคุณไม่มีทางรู้หรอกว่าคนปลายทางที่คุยอยู่นั้น
เค้ามีเงินในบัญชีกี่หลัก… ที่พร้อมโอนทันที ...
“ภาษาขาย ฝึกไม่ง่าย แต่ก็ฝึกได้ไม่ยาก”
แต่ถ้าไม่ฝึกเลย รับรองว่าแค่การขายง่าย ๆ
ก็จะกลายเป็นเรื่องยาก
แม้ลูกค้าจะอยาก… ซื้อแค่ไหนก็ตามที
