6 เทคนิคทำเงิน สำหรับคนเริ่มธุรกิจออนไลน์
ณ ตอนนี้ มันเลยจุดที่จะมานั่งถกว่า
ช้าไปไหม? ที่จะเข้ามาทำออนไลน์ แล้วมั้งฮะ
เพราะไม่ว่าเราจะเลือกทางไหน
"โลกก็ไม่แคร์" เราอยู่ดี
ยิ่งมีวิกฤตไวรัส "เป็นสารเร่ง"
ให้ทุกอย่างตื่นตัว ต้องเปลี่ยนสี
(ปรับตัวเหมือนผีเสื้อและจิ้งจก)
ใครเปลี่ยนเร็ว ก็อยู่รอด "พอได้ตั้งหลัก"
ส่วนใครที่ยัง "ดื้อ" ยอมหักไม่ยอมงอ
ถ้าไม่ตาย ก็อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ
เท่านั้นแหละฮะ
หลายคน ตัดสินใจใช้จังหวะนี้
กระโจนเข้าสู่โลกออนไลน์เต็มตัว
ด้วยจิตใจหึกเหิม ดั่งอินทรีย์ปีกแข็ง
แต่ก็ลืมไปว่า "ปีกเพิ่งจะงอก"
อย่าเพิ่งฮะ! ใช้เวลาเรียนรู้อีกสักนิด
เปิดขมับ แล้วซึมซับ
เอา 6 เทคนิคนี้ไปใช้ก่อน
อย่างน้อยที่สุด มันจะช่วย "ย่นระยะทาง"
และไม่ต้องคลำทางที่มืดมน "อย่างสะเปะสะปะ"
แถมมันยังช่วย "เซฟเงิน"
ที่มือใหม่มักจะต้อง "ควักจ่าย"
ให้กับ "ความไม่รู้" ได้ไม่มากก็น้อย
6 เทคนิค "จัดแบบตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อม"
สำหรับมือใหม่ออนไลน์ มีดังนี้
1. เลือกสินค้าให้ "เด็ด"
ถ้าไม่ได้ขนบุญเก่า
ยกเค้ามาจากร้าน offline
การจะเริ่มขายอะไร
ผมอยากให้ดูปัจจัย 4 ข้อนี้
#จำเป็นต้องใช้แค่ไหน
ในสภาวการณ์
ที่ต่างก็ "รัดเข็มขัด" จนอึดอัด
กันแทบจะขาดใจ
การเลือกขายสินค้าที่ฟุ่มเฟือยมากไป
อาจจะไม่ไหลลื่นสักเท่าไหร่ในตอนนี้
สินค้าตามกระแส และความต้องการสูง
มี "แววรุ่ง" ได้ง่ายกว่า...
สินค้าประเภทที่ "ไม่มีก็ได้"
#แตกต่างยังไง
ถ้าสินค้าของเรา
ไม่ได้มีส่วนผสมที่มาจาก
เมือกหอยเหลืองจากท้องทะเลอันดามัน
และมันก็ไม่ต่างไปจากคู่แข่งสักเท่าไหร่
งั้นก็ต้อง "ทำให้ต่าง" ด้วยสิ่งอื่น
เช่น วิธีใช้
หรือ ผลลัพย์ที่ไวคูณ 2
ลามไปถึง วิธีขาย
หรือแม้กระทั่ง คนขาย
ถ้าทำให้มีจุดขายมากกว่าคู่แข่ง
ก็เลยไปเป็น Persanal Brand ได้เหมือนกัน
#ทำให้ซื้อซ้ำได้หรือไม่
สินค้าที่ซื้อซ้ำได้
ทำให้ธุรกิจอยู่ยาว
เพราะเงินจะ "ไหลเข้า"
โดยไม่ต้องใช้แรงมากนัก
การควานหาลูกค้ารายใหม่
ใช้ค่าแรงมากกว่า "การเอาใจลูกค้าเก่า"
อยู่หลายเท่าตัวเลยทีเดียว
#คุณภาพดีจริงไหม
สินค้าที่ดี ต้องขายตัวเองได้
ด้วยประโยชน์ที่แท้จริง
แก้ปัญหาได้จริง
ไม่ใช่แค่การโหมโฆษณา
การ Over Claim
เราอาจจะขายให้ลูกค้าได้
แค่ "ครั้งเดียว" และเป็นครั้งสุดท้าย
หลังจากนั้นลูกค้าก็ Say No
และวันหนึ่งเราจะไปถึง "ทางตัน"
2. ขายใคร ? เอาให้ชัด
กลุ่มลูกค้า เป็นใคร
ผู้หญิง - ผู้ชาย
อายุประมาณไหน
ชอบอะไร
กระจุกอยู่ตรงไหน
ทั้งหมดนี้ "สำคัญ"
ต้องอ่านเกมส์ให้ขาด
เพราะเราไม่สามารถ
จะฟาดงวง ฟาดงา
เพื่อเอาใจลูกค้าได้ทั่วทุกตารางนิ้ว
มันเปลืองทรัพยากร
สมองและใช้เงินเยอะมาก ไม่คุ้มฮะ!
3. "คัด" คนธรรมดา
ออกจากลูกค้า "ตัวจริง" ด้วย Content
หมดเวลาทองของการ
"โพสมั่วซั่ว" ก็ขายได้ไปแล้วฮะ
นับจากนี้ เป็นช่วงเวลาของ
"มืออาชีพ + นักเทคนิค" เท่านั้น
ที่จะมาวัดกัน
ทุกโพส จึงต้องผ่าน "กระบวนการคิด"
ว่ามีจุดประสงค์ เพื่ออะไร และทำไปทำไม
การคัดคนที่ใช่ ออกจากคนที่ไม่ใช่
จำเป็นต้องให้ Content กรอง
ไม่ว่าจะด้วยบทความ รูปภาพ
คลิปวีดีโอ หรือการแต่งหน้ามา Live สด
เลือกใช้ได้เลยฮะ
ตามความเหมาะสม
กับสินค้า , กลุ่มเป้าหมาย
หรือวัตถุประสงค์ของการทำ Content
เพื่อควานหาคนที่พอจะ "มีแวว"
มาเป็นลูกค้าของเรา
ก็กลุ่มคนที่ กดไลค์ กดแชร์
กดรับชมวีดีโอที่เราป้อนลงเพจนั่นแหละฮะ
กลุ่มนี้แหละ คือ "กลุ่มเป้าหมายตัวจริง"
ที่เราต้องทำการ "เสนอขาย"
เพื่อล้วงเงินออกจากกระเป๋า
ในขั้นตอนถัดไป
4. ขายให้เป็น
เมื่อถึงจังหวะ ที่ลูกค้าสุกงอม
"จีบมาพอละ ขอแต่งงานเลยละกัน"
ขั้นตอนนี้ จะฝังอยู่ในก้อนเดียว
กับ Content ในข้อ 3
หรือ แยก Content ออกมาเป็นก้อนใหม่
แบบไหนก็ได้ฮะ ไม่มีถูกผิด
การสร้างโพส(Sale Content)
ขึ้นมาใหม่ แล้วยิงเข้าไปที่จุดเดิม(ด้วย ADS)
แบบนี้ก็ได้ฮะ
ก็อย่างที่บอก
ขึ้นอยู่กับการเตรียมการณ์มาตั้งแต่ต้น
ว่าเราต้องการทำอะไร 1 2 3 4 ... ตามแผนงาน
5. ยิงโฆษณาและวัดผลเป็น
ถ้าลุยมาถึงข้อนี้แล้ว
แสดงว่า ไม่ธรรมดาแล้วฮะ
แต่หัวใจหลักสำคัญของการยิงโฆษณา
ไม่ใช่แค่ "ยิงเป็น"
เพราะถ้า "ยิงเป็น และ ยิงโดนด้วย"
แต่กลับไม่รู้ว่า "โดนเพราะอะไร"
มันเท่ากับว่า เราไม่รู้อะไรเลย
แบบนั้นน่าจะเรียกว่า "ฟลุก"
เพราะถ้ายิงเป็นแล้ว
ต้อง "วัดผล" ให้เป็นด้วย
เป็นอีกหนึ่งเทคนิค
ที่คนขายออนไลน์ "จำเป็นต้องรู้"
และทำได้ "ด้วยตัวเอง"
6. ความสม่ำเสมอ
สิ่งที่ขาดไม่ได้
คือ "วินัย" ในการ "ไปให้ลูกค้าเห็น"
ในยุคที่ "ออนไลน์ล้นตลาด"
นั่นแปลว่า คู่แข่งมีนับอนันต์
ลูกค้า พร้อมจะลืมเราทุกเมื่อ
และก็พร้อมจะพบรักใหม่ในไม่เกินข้ามวัน
เพราะฉะนั้น...
Content ที่ป้อนลงเพจ
ต้องทำแผนระยะยาว (เป็นเดือน)
มี Time line ที่ชัดเจน
จะโพสเรื่องไหน
เมื่อไหร่ เวลาใด
วันละกี่ครั้ง หรือ กี่วันครั้ง
เพื่อตรึงกำลัง รักษาฐานลูกค้าเอาไว้
ไม่ให้หลุดมือ
เพราะลูกค้าแต่ละคน
กว่าจะได้มา เชื่อได้เลยฮะ
ว่าเลือดตาแทบกระเด็น
โชคดีฮะ