นักขายหลายๆคนมักคิดว่า
ลูกตื้อ เท่านั้นที่จะพิชิตยอดขายได้
แต่วันนี้ผมมี
10 เทคนิคการขายแบบไม่ต้องตื้อ ลูกค้าก็ซื้อ
สร้างยอดขายถล่มทลาย
1 ) พยายามจับคู่สิ่งที่เรามีกับคนที่ต้องการมัน
อย่าพยายามขายทุกอย่างให้กับทุกคนไม่มีทาง
ขนาดศาสนายังต้องมีมากกว่า 1 ศาสนา
แม้แต่เพลงของนักร้องโคตรดังอย่าง Maroon 5 ก็ยังมี dislike กว่า 200,000
2 ) เสนอความแตกต่าง ที่จะทำให้ลูกค้าตื่นเต้น
ของเหมือนกันไม่จำเป็นต้องมี 2 ชิ้น
“เราแตกต่างตรงไหน”
นั่นเป็นเหตุผลที่ควรค่าแก่การฟัง
3 ) "ของใหม่" น่าสนใจกว่าของเก่าเสมอ
หาทางทำมันให้ใหม่ เติม ,ผสม ,บิด
เหตุผลใหม่จะทำให้เค้าตัดสินใจใหม่
ลูกตื้อ เท่านั้นที่จะพิชิตยอดขายได้
แต่วันนี้ผมมี
10 เทคนิคการขายแบบไม่ต้องตื้อ ลูกค้าก็ซื้อ
สร้างยอดขายถล่มทลาย
1 ) พยายามจับคู่สิ่งที่เรามีกับคนที่ต้องการมัน
อย่าพยายามขายทุกอย่างให้กับทุกคนไม่มีทาง
ขนาดศาสนายังต้องมีมากกว่า 1 ศาสนา
แม้แต่เพลงของนักร้องโคตรดังอย่าง Maroon 5 ก็ยังมี dislike กว่า 200,000
2 ) เสนอความแตกต่าง ที่จะทำให้ลูกค้าตื่นเต้น
ของเหมือนกันไม่จำเป็นต้องมี 2 ชิ้น
“เราแตกต่างตรงไหน”
นั่นเป็นเหตุผลที่ควรค่าแก่การฟัง
3 ) "ของใหม่" น่าสนใจกว่าของเก่าเสมอ
หาทางทำมันให้ใหม่ เติม ,ผสม ,บิด
เหตุผลใหม่จะทำให้เค้าตัดสินใจใหม่
4 ) เหตุผลของเรานั้นราคาไม่เท่ากัน
ที่เรามองว่าคนอื่นใช้อารมณ์กับบางเรื่องเกินไป
นั้นเป็นเพราะเค้า sensitive กับเหตุผลนั้นมากกว่า
“เหตุผลเป็นตัวสร้างอารมณ์"
จงหาเหตุผลในการซื้อที่เขา sensitive
5 ) เวลาพูดถึงสินค้าของเรา ให้พูดเหมือนกับไม่มีวันผิด
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีที่สุดก็ตาม
“แต่ลูกค้าของเราเหมาะกับมันที่สุดแล้ว”
6 ) การขายคือการเหนี่ยวนำความเชื่อ
ดังนั้นเราต้องเชื่อสินค้าของเราก่อน
ถึงจะโน้มน้าวคนอื่นผ่านการพูด และการแสดงได้
7 ) ถ้าอยากลูกค้าเชื่อมั่นสินค้า จงพิสูจน์มันด้วยตัวเอง
แล้วโฟกัสให้นานพอ
ศึกษาให้ลึกจนเราเป็น "เซียน" ของสินค้านั้น
จงเชื่อในระดับที่คิดว่า
“ไม่มีใครที่จะผิดหวังกับสินค้าของเรา”
8 ) ถ้าลูกค้าไม่ถามราคา นั่นแปลว่าต้องมีอะไรผิดสักอย่าง
เพราะคนจะถามราคา
เมื่อคิดตัดสินใจซื้อไปแล้ว
แต่กำลังจะตัดสินใจต่อว่า
ควรจ่ายตอนนี้เลยไหม
9 ) คำปฏิเสธไม่ได้มีความหมายอะไรนัก
นอกจากเป็นสัญญาณบอกว่า
ขั้นตอนของเราต้องผิดอะไรสักอย่าง
ถ้าแก้ไขจนถูก เราก็จะถูกซื้อ
ลองทบทวนคำถามนี้ในทุกสัปดาห์
"ลูกค้าติดตรงไหน ถึงไม่ซื้อสินค้าของเรา (หรือซื้อน้อย)?
10 ) เปิดใจ แล้วจะได้เปิดบิล
ถ้าเราพยายามบุกหนัก ในขณะที่ลูกค้ายังไม่เปิดใจ
นั่นคือ เรากำลังปิดใจลูกค้าไปตลอดกาล
เพราะการขายไม่ใช่การยัดเยียด
การขายที่ทำให้ลูกค้าอยากซื้อ
กับทำให้ลูกค้ารำคาญ
มันแตกต่างกันเยอะ
เราเอาแต่บอกว่า "มีอะไรให้ซื้อ?"
แต่ล้มเหลวในการบอกว่า
"ลูกค้าได้อะไรจากสิ่งที่สินค้ามี"
ที่เรามองว่าคนอื่นใช้อารมณ์กับบางเรื่องเกินไป
นั้นเป็นเพราะเค้า sensitive กับเหตุผลนั้นมากกว่า
“เหตุผลเป็นตัวสร้างอารมณ์"
จงหาเหตุผลในการซื้อที่เขา sensitive
5 ) เวลาพูดถึงสินค้าของเรา ให้พูดเหมือนกับไม่มีวันผิด
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีที่สุดก็ตาม
“แต่ลูกค้าของเราเหมาะกับมันที่สุดแล้ว”
6 ) การขายคือการเหนี่ยวนำความเชื่อ
ดังนั้นเราต้องเชื่อสินค้าของเราก่อน
ถึงจะโน้มน้าวคนอื่นผ่านการพูด และการแสดงได้
7 ) ถ้าอยากลูกค้าเชื่อมั่นสินค้า จงพิสูจน์มันด้วยตัวเอง
แล้วโฟกัสให้นานพอ
ศึกษาให้ลึกจนเราเป็น "เซียน" ของสินค้านั้น
จงเชื่อในระดับที่คิดว่า
“ไม่มีใครที่จะผิดหวังกับสินค้าของเรา”
8 ) ถ้าลูกค้าไม่ถามราคา นั่นแปลว่าต้องมีอะไรผิดสักอย่าง
เพราะคนจะถามราคา
เมื่อคิดตัดสินใจซื้อไปแล้ว
แต่กำลังจะตัดสินใจต่อว่า
ควรจ่ายตอนนี้เลยไหม
9 ) คำปฏิเสธไม่ได้มีความหมายอะไรนัก
นอกจากเป็นสัญญาณบอกว่า
ขั้นตอนของเราต้องผิดอะไรสักอย่าง
ถ้าแก้ไขจนถูก เราก็จะถูกซื้อ
ลองทบทวนคำถามนี้ในทุกสัปดาห์
"ลูกค้าติดตรงไหน ถึงไม่ซื้อสินค้าของเรา (หรือซื้อน้อย)?
10 ) เปิดใจ แล้วจะได้เปิดบิล
ถ้าเราพยายามบุกหนัก ในขณะที่ลูกค้ายังไม่เปิดใจ
นั่นคือ เรากำลังปิดใจลูกค้าไปตลอดกาล
เพราะการขายไม่ใช่การยัดเยียด
การขายที่ทำให้ลูกค้าอยากซื้อ
กับทำให้ลูกค้ารำคาญ
มันแตกต่างกันเยอะ
เราเอาแต่บอกว่า "มีอะไรให้ซื้อ?"
แต่ล้มเหลวในการบอกว่า
"ลูกค้าได้อะไรจากสิ่งที่สินค้ามี"