คุณอาจจะคุ้นเคยอยู่แล้ว
ว่า “Interest” คือชิ้นส่วนสำคัญ
ที่จะพาโฆษณาของคุณ
ไปถึงลูกค้าบนเฟสบุ๊คได้อย่างเข้าเป้า
แต่ผมก็ไม่อยากให้คุณลืมนะครับ
ว่าในหน้า Ad Set ก็ยังมีอีกส่วนหนึ่ง
ที่จะยิ่งเสริมความแม่นยำตรงนี้
ให้เป๊ะยิ่งขึ้นได้อีก
ส่วนที่ดูธรรมดา ๆ นั้น
ก็คือ “Location” ครับ
มันคือส่วนที่ใครหลายคน
ไม่ค่อยได้อะไรกับมันมาก
เพราะเห็นว่าขายของอยู่แต่ในออนไลน์
คงไม่ต้องไปเจาะอะไรนักก็ได้
เหวี่ยงมันทั่วประเทศไปนั่นแหละ
แต่ถ้า Location
สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าให้คุณ
ได้เคลียร์ชัดกว่านั้นล่ะครับ
ถ้าถึงขั้นบอกได้ว่า
ลูกค้าตรงไหนมีโอกาสสูง
ที่จะซื้อของกับคุณจริง ๆ
มันจะน่าสนใจพอ
ให้ทำการบ้านมากขึ้นไหม ?
ถ้าคำตอบของคุณคือ “ใช่”
ผมก็พร้อมอธิบายให้ฟังดังนี้ครับ
“ธุรกิจ Offline ชี้ทำเลร้าน
ธุรกิจ Online ชี้เป้าลูกค้า”
ธุรกิจที่เป็น Offline
มีหน้าร้านหรือสาขาในแต่ละพื้นที่
แน่นอนเลยครับว่าต้องให้ความสำคัญ
กับการเซ็ท Location ยิงโฆษณา
เพราะการปักหมุดขยายรัศมี
ยิงหาลูกค้าในละแวกที่เป็นไปได้
มีผลต่อความรู้สึกใกล้ – ไกล
และการตัดสินใจของลูกค้า
ว่าดูแล้วน่าขับรถไปลองดีไหม
ในขณะที่การขายแต่บน Online
อาจไม่ต้องสนใจเฉพาะจุดมากนัก
แต่คุณต้องคำนึงถึงเรื่องพวกนี้ด้วยครับ
- สินค้าที่ขายเกี่ยวกับอะไร ?
- เกี่ยวกับใคร ?
- ราคาระดับไหน ?
แล้วมันจะนำไปสู่การแกะรอยต่อไปว่า...
- กลุ่มเป้าหมายนั้น อยู่หนาแน่นที่ไหน ?
- เค้าเป็นคนท้องถิ่นของที่นั่นเลยไหม ?
- หรือแค่ไปทำงานอยู่แถวนั้น ?
เพราะ Location แต่ละจุด
สามารถสะท้อนสิ่งที่ลูกค้าของคุณ
‘เป็น’ ‘มี’ หรือว่า ‘ทำ’ ได้ประมาณนี้ครับ
1. ระดับรายได้/กำลังซื้อ
Location ของคนในเมือง ชานเมือง
หรือไกลโพ้นออกไปเลย
ระดับรายได้เค้าย่อมไม่เท่ากันครับ
บางโซนของจังหวัด
อัดแน่นไปด้วยคนทำธุรกิจ
มีเม็ดเงินสะพัดมหาศาล
บางโซนของหัวเมืองใหญ่
มีออฟฟิศบริษัทระดับประเทศ
หรือไม่ก็บริษัทข้ามชาติ
พนักงานเงินเดือนสูง ๆ เดินกันให้ควั่ก
บางโซนก็เป็นที่รวมตัวกัน
ของคนมีฐานะค่อนไปทางบน ๆ
พอจะนึกออกบ้างไหมล่ะครับ
ว่ามีที่ไหนบ้าง ?
ซึ่งอาจเจาะลงได้เป็นจังหวัด
อย่างเช่นกรุงเทพ , ชลบุรี , ฉะเชิงเทรา
เชียงใหม่ , ภูเก็ต
เอาแค่ตัวอย่างไม่กี่จังหวัด
ที่เพิ่งผ่านตาคุณไปเมื่อกี้นี้
ก็อาจจะพอนึกภาพของ
สถานะความเป็นอยู่และรายได้ออก
ดังนั้นลองนึกภาพและ
หาข้อมูลเพิ่มเติมดูครับ
ว่าคนในแถบไหน
น่าจะมีคุณสมบัติเชิงกำลังซื้อ
ที่ใช่สำหรับสินค้าของคุณบ้าง ?
2. Lifestyle การใช้ชีวิต
ถ้าจะใส่กรอบให้แคบลงมาอีกนิด
คุณต้องคิดเพิ่มเข้าไปอีกว่า
ลูกค้าของคุณเค้าน่าจะเป็นใคร
น่าจะทำอะไร แล้วเค้าควรจะใช้ชีวิต
อยู่ในโซนไหนของราชอาณาจักรบ้าง
เพราะแต่ละโซนสะท้อนลักษณะ
ของผู้คนที่แตกต่างกันไปครับ
ความต้องการของเค้าก็ไม่เหมือนกัน
สังเกตจากความต่างของ
สิ่งตอบสนองในโซนนั้น ๆ ได้
อย่างโซนมหาวิทยาลัย
แน่นอนว่าจำนวนกลุ่มก้อนใหญ่
คงต้องเป็นน้อง ๆ วัยเรียน
ความต้องการของวัยใส
แถบใกล้สยาม ท่าพระจันทร์ รังสิต
ก็คนละอย่างกับผู้ใหญ่วัยทำงาน
แถบรัชดา อโศก สีลม
เพราะอย่างโซนออฟฟิศ บริษัทใหญ่ ๆ
ก็อาจอยากได้อะไรที่โตขึ้นมากกว่า
ซึ่งมีเงินที่หามาได้ด้วยตัวเองแล้ว
หรืออย่างโซนคอนโดแน่น ๆ
Lifestyle ย่อมคนละแบบ
กับโซนหมู่บ้านจัดสรรเยอะ ๆ
ก็ขนาด Community Mall ที่ผุดขึ้น
ยังไม่เหมือนกันเลยใช่ไหมล่ะครับ ?
แล้วเอาเข้าจริง ๆ ผมเคยเจอ
ลูกศิษย์บางคนด้วยซ้ำ ที่สินค้าของเค้า
เจาะว่าจะขายให้กับสาวโรงงาน
ดังนั้น Location ของเค้า
จึงตอกหมุดลงเสาเข็ม
เหมาบริเวณนิคมต่าง ๆ ทั้งหมดครับ
3. Activity
ลูกค้าของคุณน่าจะมี
Activity ในชีวิตยังไงอีกบ้าง
ที่นอกเหนือไปจาก
สภาพแวดล้อมหลักของเค้า
ที่มากกว่าชีวิตการเรียน การทำงาน
หรือการกินข้าวละแวกบ้าน
สินค้าของคุณเกี่ยวพัน
กับการลดน้ำหนักของคนช่างกินไหม ?
แล้วเค้าน่าจะชอบไปเดินหา
ของกินตอนกลางคืนหรือเปล่า ?
โซนแถวไหนกันที่เค้า
จะต้องไปแน่ ๆ ?
เสื้อผ้าแบรนด์ที่คุณขาย
มีลูกค้าเป็นกลุ่มเดียวกับ
ร้านแถวแพล็ททินั่ม ประตูน้ำไหม ?
หรือจริง ๆ แล้วแมทช์ได้กับ
ร้านแถวสยามกันแน่ ?
การส่งโฆษณาของคุณ
ไปดักหน้าดักหลัง
ให้ตรงตามทำเลที่เค้าสนใจอยู่แล้ว
ก็เป็นการบ้านที่คุณควรเอาไปคิด
ให้ชัดด้วยเหมือนกันครับ
..............................
ถ้าพูดถึงหลักการตลาด
ตั้งแต่สมัย 4P ยัน 8P
คงจะจำได้นะครับ
ว่ามันมี “Place” เป็น 1 ในนั้นด้วย
ซึ่งหลักเดียวกันนี้ก็สามารถ
เอามาใช้บนโลกออนไลน์
หรือในการยิงโฆษณาเฟสบุ๊ค
ได้ด้วยเหมือนกัน
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้อยู่แค่
เรื่องของการใช้เครื่องมือเท่านั้นครับ
แต่เป็นการที่เจ้าของธุรกิจอย่างคุณ
ต้องเข้าใจสินค้าของตัวเอง
และเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า
แล้วคุณจะเข้าใจเรื่อง Location
ที่ควรเจาะไปหาเค้าได้จริง ๆ ครับ