5 สิ่งที่ต้อง "ทิ้ง" ถ้าอยากวิ่ง "ไปไกล" กว่านี้ I SALESARM


Blog Detail

1. ทิ้ง ‘ตัวตน’ เพื่อค้นหา ‘ตัวเอง’

ในอนาคต เรามีหลาย Version มากกว่าที่เราคิด
ถ้าเทียบตัวเองตั้งแต่ Version แรกกับ Version ปัจจุบัน
เราก็จะเห็นความแตกต่างเหมือนเป็นคนละคนกัน
จาก ม. 4 จนถึงปี 4
จากบัณฑิตจบใหม่จนมาถึงปัจจุบัน
จากที่ขี้อายไม่กล้าเผชิญหน้าคน จนสามารถพูดได้ทุกเวลาโดยไม่ต้องมีโพยใด ๆ

หลังจากได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองแบบหน้ามือเป็นหลังมือแล้ว… 
ผมจึงเป็นคนหนึ่งที่ตั้งตัวเป็น Explorer  ‘นักค้นหาความเป็นไปได้ของตัวเอง’

ค้นหาทักษะใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชีวิตจะไม่เคยน่าเบื่อ
ถ้าเราเปิดโอกาสให้ตัวเองได้อัปเกรดเสมอ
และชีวิตจะไม่เคยเจอทางตัน ถ้าเราพร้อมจะออกเดินทางเสมอ… 

2) ทิ้ง ‘ทิฐิ’ เพื่อเปิด ‘ปัญญา’

ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการตลาด หรือเทคนิคประสบความสำเร็จบนโลก
มันก็มีจำนวนมากเกินกว่าที่จะมีใครมานั่งเล่าได้หมด
มันมีเยอะเกินกว่าจะเขียนออกมาจนครบ 
คนที่ประสบความสำเร็จก็จะสอนในบทเรียนที่เค้าถนัด 
คนที่กำลังไล่ล่าความสำเร็จ ก็จะสอนในบทเรียนที่เค้าถนัด 
คนที่ล้มเหลวก็จะสอนในบทเรียนที่เค้าถนัด…

โดยเฉพาะคู่แข่ง  หรือคนที่กำลังจะเดินในเส้นทางเดียวกับเรา
เพราะสำหรับผมแล้ว คนที่น่าเรียนรู้ที่สุด คือคนที่กำลังต้องการ ‘ชัยชนะ’ มากที่สุด…
 
3) ทิ้ง ‘ความกลัว’ เมื่อเราไม่รู้สึก ‘ประมาท’

ความกลัวปล่อยให้เราคิดถึงการป้องกัน 
ขนาดบริษัทใหญ่ ๆ  ยังต้องมีหัวหอก กับฝ่ายสนับสนุน
เพื่อให้วิ่งได้ยาว ๆ โดยที่ล้อไม่หลุดกระจายออกจากเครื่อง… 
ใช่ครับ ‘ความกลัว’ มันมีประโยชน์เสมอ
แต่ถ้าใช้จน ‘มั่นใจ’ แล้ว ว่าเราไม่ได้กำลัง ‘ประมาท’ อยู่
ก็ต้องหัดเก็บมันไว้ข้างหลัง เพื่อไม่ให้ ‘ขวางทาง’ เรา 
แล้วค่อยหยิบนำมันมาใช้ทุกครั้งที่เราจะต้องเจอความท้าทายครั้งใหม่
หรือการตัดสินใจที่สำคัญในอนาคต 

4) ทิ้ง ‘ความสุขชั่วคราว’ เพื่อซื้ออนาคตระยะยาว 

การตอบแทนตัวเองเป็นเรื่องที่ต้องทำ  แต่ต้องอยู่ในจำนวนเงินที่เหมาะสม  และแผนในอนาคตของเรา… 
เงินทุกบาทมีพลังเท่ากัน ซื้อ ‘ความสุข’ ก็ได้ ซื้อ ‘อนาคต’ ก็ได้ หรือซื้อ ‘ภาระ’ ก็ได้ 
อยู่ที่เราว่าตอนนี้จะเอาใช้ซื้ออะไรก่อน แล้วมันเหลือมากพอที่จะเก็บไว้ซื้อ ‘อนาคต’ ไหม

5) ทิ้ง ‘เงื่อนไข’  เพื่อเดินต่อไปข้างหน้า 

ถ้าอยากประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม
เราต้อง ‘วางแผน’ เพื่อกำจัด ‘ข้ออ้าง’ ของตัวเอง 

ถ้าไม่มี ‘เวลา’ ก็หาคนอื่นช่วยงานที่เราไม่จำเป็นต้องทำ 
ถ้าไม่มี ‘Connection’ ก็เข้าหาสังคมใหม่ ๆ ไปเจอคนทำธุรกิจบ่อย ๆ 
ถ้าไม่มี ‘ความรู้’ ก็เปิด Google กับ Youtube สิ
ถ้าไม่มี ‘ประสบการณ์’ ก็เริ่มลงมือเก็บประสบการณ์ไปทีละสเต็ป… 
ถ้าอยากทำลายข้ออ้าง เราต้องมี Solution ที่ชัดเจน

มันถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง 

ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจุดอ่อนของเราคืออะไร อะไรขัดขวางก้าวถัดไปของเรา