7 ขั้นตอน เพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน

ในภาวะโควิด19 ครองเมือง หลายธุรกิจต้องถอยกัน คนละก้าว สองก้าว

Blog Detail

ในภาวะโควิด19 ครองเมือง

หลายธุรกิจต้องถอยกัน

คนละก้าว สองก้าว



แต่ถ้ามองดีๆ การถอยครั้งนี้

ก็แค่ไปตั้งหลักรับมือ

ดึงเข็มขัดรัดรายจ่ายไว้ให้แน่นหนา

โดยเฉพาะคนที่ต้องดำรงชีพ

ด้วยการขายของออนไลน์

ยิ่งต้องปรับตัวให้ไว หาลู่หาทางให้ได้

พร้อมกางกลยุทธ์

สิบแปดกระบวนท่าออกมาใช้

ให้ยอดขายทวีคูณ

ในสัดส่วนที่คุ้มทุนที่สุด



แต่ถ้ายังมืดแปดด้าน

ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน?

เชิญมาพลิกวิกฤติเป็นโอกาส

ได้ที่โพสต์นี้ฮะ



เพราะผมจะบอก

7 ขั้นตอน อัพยอดขายให้สูงเฉียดฟ้า

ในต้นทุนต่ำกว่ากะลังมังคว่ำบนพื้น


1. ดัน Content ให้ปัง



“Content is king and Context is queen”



สร้างคอนเทนต์ทั้งที สร้างให้ปัง

ดันให้สุด จะได้เกิด

เลิกเถิดกับ Content หว่านแห


ที่ยิ่งหว่านไปไกลเท่าไหร่

ก็ไม่ได้ปลาติดแหมาสักตัว


เสียพลัง เสียเวลา เสียค่าแอดฟรี!


2. กลุ่มเป้าหมาย ให้ชัด



Audience ไม่ได้มีแค่ผู้หญิง ผู้ชาย

ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกอีกต่อไป


แต่คุณต้องพุ่งไปหา “กลุ่มเป้าหมาย”

ให้ได้ว่าต้องการให้คนแบบไหน?

มาควักเงินจ่ายเพื่อซื้อสินค้า


เช่น …


ผู้หญิงวัยสามสิบอัพ ไร้ภาระ

ไม่มีลูกและสนุกกับชีวิตโสด


คนเหงา ที่อยู่ในโหมด

อยากดูแลผิวตัวเองสุดๆ


วัยรุ่นผิวพัง สิวฮอร์โมน

กำลังปะทุบนใบหน้า


ผู้ชายชอบออกกำลังกาย outdoor

ไม่กลัวแดด ไม่สนฝน

แต่ไม่อยากทนกับผิวเสีย ฯลฯ



ยิ่งกลุ่มเป้าหมาย ชัดเจนมากเท่าไหร่…

ยิ่งเอื้อให้ Step ต่อไป ง่ายมากขึ้นเท่านั้นฮะ


3. แอดทะลวงหาเป้า



Step นี้จะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

หรือยากเหมือนยกครกขึ้นยอดเขาเอเวอร์เรส


ก็อยู่ที่ว่า “กลุ่มเป้าหมาย” ของคุณ

เป็นภาพแบบชัดตื้น ชัดลึก หรือขะมุกขะมัว


เพราะถ้ายังมัวลังเล ก็เตรียมตัวได้เลย

ว่าต้องเปลืองกระสุน [เม็ดเงินยิงแอด]

เยอะแน่นอน


แต่ถ้าอยาก Save กระสุนไว้


แอดที่ปล่อยไปก็ควรมั่นใจ…

ว่าจะทะลุทะลวงไปหาเป้าหมายที่ใช่

ให้ได้เยอะที่สุดฮะ


4. เฝ้า Stats



เรื่องสถิติ Stats ไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อน

เพราะผมยังแนะนำให้สิง Stats ไว้เสมอ


ไม่ว่าจะขายของอะไร ให้ใคร กี่ชิ้น

Ad ไหนปัง แอดไหนพังไม่เป็นท่า ฯลฯ


เพราะสถิติในมือ

ไม่ต่างจากในมือคุณถือมีดคมไว้หนึ่งเล่ม


เมื่อวิเคราะห์จนรู้แจ้ง เห็นได้

ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะตัดอะไรที่ไม่ใช่ทิ้งไปเสีย


นำมาซึ่งต้นทุนที่หดลดตัวลง

แถมได้ไปคลุกอยู่กับกลุ่มเป้าหมาย

ที่เป็นลูกค้าตัวจริง


และเห็นช่องทางใหม่

ที่สองตาเปล่าไม่เคยเห็นมาก่อน


5. ปิดรูรั่ว



“น้ำในโอ่งไม่มีวันเต็ม

ตราบใดที่ตูดโอ่งยังทะลุอยู่”

.

.

หยุดหายอดเข้าร้าน ถ้ายังไม่รู้เลยว่า…

ทุกวันนี้เม็ดเงินกระเด็นกระดอน

ไปกับอะไรมากที่สุด?

.

.

เพราะต่อให้คุณมียอดขายเป็นร้อยออเดอร์

แต่รูรั่ว [รายจ่ายไม่จำเป็น] เป็นล้าน


ขายให้ตาย เงินก็ไม่มีวันเต็มกระเป๋า


ดังนั้น งมหาให้ได้ มองหาให้เจอฮะ

ตรงไหนคือรูรั่วที่เงินไหลไปหามากที่สุด


จะได้หาวิธี หาวัสดุมาอุดรูนั้นได้ทัน

ก่อนทุนจะจม กำไรจะหาย

ทั้งที่ของก็ขายดิบขายดี


6. ไม่มั่วต้นทุน



ทุกสินค้า ล้วนมี

ต้นทุนที่มองเห็น VS มองไม่เห็น


สิ่งสำคัญคือเราต้องแยกฝั่งให้ออก


ต้นทุนไหน

ก่อให้เกิดรายได้ ?


ต้นทุนใด

ทำให้รายจ่ายพุ่งยิ่งกว่าเลือดกำเดา ?



วิธีการที่นำไปใช้ได้ทันทีก็คือ

การบันทึกรายรับ รายจ่าย

ต้นทุนทุกบาทที่ถูกใช้ออกไป


เพื่อ Save เม็ดเงินไว้ให้ได้มากที่สุด



หยุด! มั่วเอาต้นทุนสินค้า

รายจ่ายส่วนตัว ค่าแอด ค่าส่ง ฯลฯ

มาปะปนรวมกันเด็ดขาด


ถ้าไม่อยากนั่งปาดน้ำตา

ทุนหาย ของหมด

รายจ่ายยาวเป็นหางว่าวที่ปลิดปลิว


7. กองหนุน (Admin) ดี



ทั้ง 6 ขั้นตอนที่ผ่านมา

เป็นดั่งการก่อร่างสร้างทำเลรบให้พร้อม


แต่การจะกำชัย

เอายอดขาย X กำไรกลับร้าน


จำเป็นต้องเต็มไปด้วย

กองหนุน [Admin] ที่ดี



ไม่ต้องถึงกับเป็นมือทอง มือเอก


ขอให้เสกยอดกลับมาให้เราได้

ปิดการขายเฉียบคม


ไม่เงียบเวลาลูกค้าทัก

กระตือรือร้นนักเรื่องเรียนรู้


เมื่อเจอคู่หูที่ดี

แอดมินที่พร้อมรบตลอดเวลา


ยอดขายก็พร้อมอัพขึ้น

ไม่ต้องเสียต้นทุน

เทรนกองหนุนใหม่ ตลอดเวลา