สร้างเพจยังไงให้เป็นแบรนด์ จนฐานแฟนวิ่งตาม


Blog Detail

 
“ถึงคุณจะไม่ใช่เจ้าของแบรนด์สินค้า
นั่นก็ไม่ได้แปลว่า คุณไม่ต้องมีแบรนด์”

 

ผมเข้าใจดีครับว่าประโยคข้างบนนี้
อาจฟังดูแปลก ๆ สำหรับใครบางคน
 
แต่ถ้าคุณเข้าใจว่าจริง ๆ แล้ว
คำว่า “แบรนด์” ไม่ได้จำเป็นต้อง
หมายถึงสินค้าเสมอไป
 
แต่สามารถเป็นอะไรก็ได้
ทั้งเพจ ร้านค้า ตัวบุคคล
 
ที่อธิบาย “ตัวตน” ได้อย่างเด่นชัด
จนผู้คนรับรู้ เข้าใจ จดจำได้
 
และติดป้ายในใจของเค้า
เป็นที่เรียบร้อยว่า...
 
คุณน่ะเป็นใคร พูดเรื่องอะไร
ให้คุณค่าอะไร โฟกัสเรื่องไหน
เชี่ยวชาญสิ่งไหนเป็นพิเศษ
 
นั่นแหละครับที่เรียกว่า “แบรนด์” จริง ๆ
 
เพราะถ้าคุณลองไปส่องดู
แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จทั้งหลาย
 
ไม่ว่าจะเป็นสินค้า บุคคล
บล็อกเกอร์ หรือเพจอะไรก็ตาม
 
ก็จะเห็นเลยว่า แม้ธุรกิจของเค้า
หรือสิ่งที่เค้าทำจะแตกต่างกัน
 
ล้วนก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือน ๆ กัน
 
นั่นคือการมีจุดยืน จุดเด่น
ภาพลักษณ์ที่โดดออกมาข้างหน้า
ให้เห็นอย่างชัดเจนทั้งสิ้น
 
ดังนั้นจึงสามารถพูดได้เลยว่า...
 
คุณก็สามารถมีแบรนด์
เป็นของตัวเองได้เช่นกัน
 
แม้จะไม่มีสินค้าในนาม
ของคุณเองเลยก็ตาม
 
อาจจะเป็นแบรนด์ของเพจคุณ
แบรนด์ของร้านคุณ
หรือ Personal Brand
ของตัวคุณก็ตาม
 
ยิ่งสำหรับในยุคนี้ที่รอบข้างคุณ
แวดล้อมไปด้วย...
 
คนที่ทำธุรกิจเหมือน ๆ กัน
คนทำในสิ่งที่คล้าย ๆ กัน
 
การสร้าง “ความชัดเจน”
ที่แตกต่างอย่างเป็นตัวคุณ
 
จึงถือเป็นกุญแจดอกสำคัญ
สำหรับยุคนี้เลยทีเดียว
 
ด้วย “ความชัดเจน”
ที่บัญญัติขึ้นเป็นแบรนด์ของคุณ
จนติดอยู่ในใจลูกค้าได้อย่างคงทน
 
มีอยู่ 2 แนวทางหลัก ๆ
ให้คุณเลือก Define ตัวเองได้ดังนี้ครับ
 
 
1. ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้า
 
คุณขายสินค้าอะไรอยู่ล่ะครับ ?
 
ไม่ว่าจะขายตัวไหนอยู่
ผมว่าคุณต้องมีความรู้
เกี่ยวกับสิ่งที่ขายอย่างแน่นอน
 
แต่การเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือ Expert
มักไม่ได้ยึดติดแค่สินค้าตัวใดตัวหนึ่ง
ที่ขายอยู่เท่านั้นหรอกนะครับ
 
เพราะเค้าจะต้องรู้รอบครอบคลุม
ทุกสิ่งในแวดวงเดียวกันทั้งหมด
 
ซึ่งสนามเห่งความเป็น Expert ด้านสินค้า
จะมีอยู่ 2 สไตล์ให้คุณได้ลงเล่นดังนี้ครับ
 
A) Expert ในกลุ่ม Product
 
เช่น ...
 
- กลุ่มอาหารเสริม
- กลุ่มดีท็อกซ์
- กลุ่มครีม
- กลุ่มยาแต้มสิว
 
Expert สายนี้จะอ้างอิงความคล่อง
ในลักษณะของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก
 
ประมาณว่าเป็นคนที่ผ่านการกิน ดื่ม ทา
ใช้สินค้ากลุ่มนั้นมาอย่างโชกโชน
 
เทสต์เปรียบเทียบมานักต่อนักจนรู้ดีว่า...
 
อาหารเสริมตัวนี้ละลายน้ำดีกว่า
ดูดซึมดีกว่าอีกตัว
 
ดีท็อกซ์ตัวนี้ กลิ่น รส ดื่มง่ายกว่า
และไม่บุกหนักหน่วงระหว่างวัน
 
ครีมแบรนด์นี้ใช้แล้วหน้าไม่มัน
ทาตอนเช้าก่อนออกบ้านได้
 
ยาแต้มสิวตัวนี้อาจฤทธิ์ไม่แรงเท่า
แต่ก็ไม่เป็นภัยต่อคนที่ผิวแพ้ง่าย
 
เรียกว่าตัวไหนในวงการ
ผ่านมือคุณมาหมด จนเอามาคอมเมนต์
แนะนำลูกค้าและผู้ติดตามได้เป็นฉาก ๆ
 
หรือไม่ก็...
 
B) Expert ในกลุ่ม Benefit
 
Expert ในลักษณะนี้จะไม่ขึ้นกับ
การใช้สินค้าเป็นหลัก แต่จะยึดเอา
จุดประสงค์ “เชิงผลลัพธ์” เป็นแกนกลาง
 
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าตัวไหน ก็ขอแค่ทำให้...
 
- หุ่นผอม
- ผิวขาว
- หน้าใส  ไร้สิว
- ย้อนวัย ยกกระชับ
- แต่งหน้าสวย
- แต่งตัวมีคลาส
ฯลฯ
 
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้ได้ผลลัพธ์
ตามที่คุณยึดเป็นสรณะ
ก็สามารถคว้ามาพูดถึงได้ทั้งหมด
 
ถ้าเป็นเรื่องผิวขาว
ควรใช้กันแดดตัวไหนก่อนออกจากบ้าน
กินอาหารเสริมแบบไหนให้ผลเร็ว
ทาครีมตัวไหนก่อนนอนดีที่สุด
 
ถ้าเป็นเรื่องหน้าใส
กินดีท็อกซ์ตัวไหนช่วยล้างใสยันใบหน้า
คลีนซิ่งขวดไหนล้างเครื่องสำอางหมดจด
น้ำแร่แบรนด์ไหนฉีดแล้วซึมสู่ใต้ผิวดีมาก
 
ถ้าเป็นเรื่องแต่งหน้า
ปัดมาสคาร่าแบบไหน ปัดแก้มเบอร์อะไร
ลิปสติกสีไหน ให้ลุคเหมาะออกงานกลางคืน
 
ยิ่งคุณช่ำชองในทุกสิ่งเพื่อให้ได้
Benefit นั้น ๆ คุณจะยิ่งมีเรื่องเล่า
มีข้อแนะนำไม่รู้จบเลยล่ะครับ
 
นี่ยังไม่รวม Solution ที่ให้ได้มาซึ่ง
Benefit นั้น ที่แตกแยกย่อยลงไปอีก
 
เช่น ...
 
- ดูแลแบบธรรมชาติ/ออแกนิคล้วน ๆ
- ดูแลด้วยแพทย์โดยเฉพาะ
- ดูแลด้วยสินค้าในราคาที่หาได้ในเซเว่น
ฯลฯ
 
มีหลายแนวให้เลือกได้เต็มที่เลยครับ
 
 
2. ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ
 
เมื่อขยับตัวเองขึ้นมาในระดับแม่ทีม
สิ่งที่คุณต้องนำเสนอให้ผู้ติดตาม
จะไม่ได้มีเพียงสินค้า หรือ Benefit
 
เพราะแน่นอนล่ะครับว่า...
 
คนที่ติดตามเรื่องการใช้สินค้าและผลลัพธ์
มักเป็นลูกค้าที่มองหาบางอย่างให้ตัวเอง
 
แต่คนที่มาติดตามเรื่องราวของแม่ทีม
มักจะสนใจมองหาธุรกิจมากกว่า
 
ดังนั้นแบรนด์ที่คุณต้องสื่อออกไป
จึงควรเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
 
ซึ่งมีมิติมากมายให้คุณพูดถึง
สิ่งที่คุณเก่ง และสิ่งที่คุณโฟกัส
โดยอาจเป็น...
 
- การขาย
- การตลาด
- เครื่องมือออนไลน์
- การเทรน
- การโค้ชชิ่ง
 
เอามาเป็นคอนเซ็ปต์หลัก
ที่เหมือนกับนามสกุลต่อท้าย
ชื่อของคุณ อย่าง...
 
“นักปิดการขายยอดหลายล้าน”
เพื่อบอกว่าคุณเก่งเรื่องปิดการขาย
 
“แม่ค้าออนไลน์สายยิง Ad
เพื่อบอกว่าคุณเป็นมือฉมัง
เรื่องยิงโฆษณาเฟสบุ๊ค
 
“เทรนตัวแทนให้ติดปีก”
เพื่อบอกว่าคุณเน้นเทรนตัวแทน
ตั้งแต่มือใหม่จนกลายเป็นมือทอง
 
ณ จุดนี้ให้งัดจุดแข็งของคุณ
ขึ้นมาสัก 1 อย่าง แล้วสร้างมัน
ให้เป็นแบรนด์ประจำตัว
 
ให้ถึงขั้นติดเป็นชื่อ - สกุลใหม่
ของคุณได้ยิ่งดีเลยครับ
 
.............................
 
การวางแบรนด์ของตัวเองให้ชัด
ก่อนซัดคอนเทนต์ลงไปในเพจ
 
ถือเป็นเสียงสัญญาณออกตัว
ที่สำคัญที่สุด
 
ดังนั้นคุณเลือกเอาเลยครับ
ว่าจะวางตัวเองให้เป็นแนวไหน
 
แนวที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
แนวที่จะดึงดูดผู้ติดตามให้เข้ามา
ห้อมล้อมคุณในแบบที่เป็นคุณ
 
เพราะไม่เคยมีเพจไหนหรอกครับ
ที่ปังได้ด้วยการไม่มีแบรนด์เฉพาะตัว
 
เพจของคุณเองก็เช่นกันครับ