วิธีปั้นคนเก่ง ให้เป็นมือขวาช่วยปั้นธุรกิจ


Blog Detail

 
“ไปคนเดียว ไปได้ไว 
ไปด้วยกัน ไปได้ไกล”
 
เคยได้ยินประโยคคลาสสิกนี้ใช่ไหมครับ ?
 
ผมว่าเป็นประโยคที่สื่อความหมาย
สำหรับคนทำธุรกิจได้ดีเลยทีเดียว
 
เพราะอย่างตอนที่เป็นตัวแทน
คุณพัฒนาตัวเองให้ขายของเก่ง ๆ
แค่นั้นก็อาจเพียงพอแล้ว
 
แต่เมื่อขึ้นมาเป็นแม่ทีม
คุณต้องรับผิดชอบผลลัพธ์ของทั้งทีม
ตั้งแต่เรื่องยอดขาย จนถึงการบริหารจัดการ
 
ซึ่งเรื่องใหญ่ไซส์ระดับนี้
คุณไม่สามารถทำคนเดียวไหวหรอกครับ
แต่ต้องอาศัยการรวมพลัง
จากคุณภาพของคนในทีม
 
ดังนั้นถ้าคุณไม่สามารถพัฒนาใครในทีม
ให้เก่ง ให้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง
มาช่วยคุณสร้างทีมได้
 
รับรองเลยว่าคุณจะต้องเหนื่อย
เหมือนวิ่งมาราธอน 7 รอบทวีปเลยล่ะครับ
 
ในทางตรงกันข้าม
ถ้าคุณฝึกฝนใครสักคนจนฝีมือดี
เค้าจะเป็นตัวช่วยให้คุณเหนื่อยน้อยลง
และผลักดันธุรกิจไปได้ไกลขึ้น
 
แต่ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะต้องฝึกเค้ายังไง
ควรฝึกด้วยวิธีไหนบ้าง
 
ไม่ต้องห่วงครับ
ผมจะมาแนะนำให้เป็นขั้นเป็นตอนดังนี้เลย
 
 
1. ปั้นคนที่เค้าอยากให้เราปั้น
 
คุณไม่สามารถไปคาดหวังว่าจะปั้นคน
ทีเดียวยกหมดทีมได้หรอกครับ
 
คุณจะโฟกัสได้จำกัด
ต้องเลือกคนที่เค้าเต็มใจพัฒนาเป็นหลัก
 
เพราะใคร ๆ ก็รู้แหละครับ
ว่า “ความรู้” นั้นเป็นสิ่งที่ดี
 
แต่ใช่ว่าเค้าจะอยากกิน
ในสิ่งที่คุณป้อนให้เหมือนกันทุกคน
 
ดังนั้นขอให้คุณเลือกแค่ 1 – 2 คน
มาปั้นแบบใกล้ชิด ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
สัก 1 – 2 เดือน
 
เอาแบบเน้น ๆ ให้เห็นความเปลี่ยนแปลง
ที่ชัด ๆ เจ๋ง ๆ ไปเลย
 
จากนั้นให้เค้าเอาความรู้ ความเก่งที่ได้มา
ไปถ่ายทอดต่อให้กับคนอื่น ๆ ในทีม
แบบนี้จะช่วยลดแรงและเวลา
ของคุณลงไปได้มาก
 
ในขณะเดียวกันคุณจะได้มีเวลา
ขยับไปโฟกัสปั้นคนที่น่าสนใจในลำดับถัดไป
 
 
2. ให้เค้าโตในแบบของเค้า
 
การปั้นคนอย่างถูกวิธี
ไม่ใช่การมอบส่วนที่ดีที่สุดของคุณ
เพื่อให้เค้าเป็นเหมือนคุณที่สุด
 
แต่เป็นการมอบส่วนที่ดีที่สุดของคุณ
เพื่อให้เค้าเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด
 
 
เพราะไหนจะเรื่องของช่วงวัย Generation
นิสัยส่วนตัว ความถนัด ที่ไม่เหมือนกัน
 
มันจึงเป็นไม่ได้หรอกครับ
ที่จะยัดเยียดให้มนุษย์คนไหน
โคลนนิ่งเหมือนกันได้หมด 100%
 
อย่าพยายามบีบให้เค้าโตในกระถาง
แต่จงใส่ปุ๋ย รดน้ำ ให้เค้าเติบโต
แผ่ขยายกิ่งก้านสาขาออกไปแทน
 
เพราะเค้าอาจจะเก่งในทักษะบางอย่าง
ที่แตกต่างออกไป และสามารถเอามา
เติมเต็มให้กับทีมได้
 
เช่น ...
ทักษะการพูด
ทักษะการเขียน
ทักษะการยิงโฆษณา
 
เต็มที่คุณสามารถสอนเค้าในบางทักษะ
ที่ถอดแบบอย่างจากคุณไปทำตามได้
 
แต่สุดท้ายเค้าก็ต้องเอาไปประยุกต์ใช้
ให้เหมาะกับตัวเองอยู่ดี
 
ดังนั้นเวลาที่จะปั้นใครสักคน
อย่าลืมนะครับว่า “เค้า” ไม่ใช่ “คุณ”
 
 
3. อย่าเอาแต่อัดหลักการ
 
เวลาสอนพยายามลดเรื่องหลักการลง
แล้วหยิบเอาตัวงานจริงมาให้เค้าเห็น
จะเข้าใจได้ดีกว่าครับ
 
คุณอาจมีคำถามจากสถานการณ์จริง
ว่ากรณีนี้แบบนี้ คิดว่าควรทำยังไง ?
เลือกแบบไหน ? เพราะอะไร ?
 
การเอาของจริงมาเป็นตัวตั้ง
ในการเรียนรู้ระหว่างสอน
 
ให้เค้าลองคิด ลองทำ
ลองปรับใช้ ลองเอาไปคิดต่อ
ลองผิดลองถูกได้เต็มที่
โดยมีคุณคอยช่วยโค้ชให้
 
ด้วยวิธีนี้ นอกจากเค้าจะได้สัมผัส
กับงานจริง ๆ แล้ว คุณจะดูออกด้วยว่า...
 
เค้า Get แค่ไหน ?
เค้าเข้าใจถึงระดับไหน ?
ตรงไหนที่โอเคแล้ว 
ยังขาดเหลืออะไรอีกบ้าง ?
 
เพราะจริง ๆ แล้วความรู้รอบธุรกิจคุณ
มันมีอยู่ท่วมหัวเต็มไปหมดแหละครับ
 
แต่ในที่สุดแล้วเค้าจะสามารถ
เอาไปใช้จริงได้หรือเปล่าต่างหาก
นี่สิคือประเด็นที่สำคัญ
 
ดังนั้นสอนเค้าด้วยงานจริง
และวัดผลเค้าด้วยผลงานจริง ๆ
จะได้ผลที่สุดครับ
 
 
4. มอบคัมภีร์ให้ทีละเล่ม
 
เค้าอาจจะเป็นไว ก้าวไปได้เร็ว
ในสิ่งที่คุณสอน
 
แต่คุณไม่จำเป็นต้องไปยัดทุกอย่าง
ให้เค้าหลาย ๆ เรื่องพร้อม ๆ กัน
 
อีแบบนี้ต่อให้เค้าหัวไวแค่ไหน
ก็อาจหัวหมุนจนธาตุไฟแตกก่อนได้ครับ
 
เพราะในความเป็นจริงแล้ว
คนเราจะค่อย ๆ เก่งขึ้น
ทีละลำดับขั้นไปเรื่อย ๆ
 
ต้องให้เค้าเรียนรู้ไปทีละอย่าง
ก้าวบันไดขึ้นไปทีละขั้น
 
ดูว่าจำเป็นต้องสอนเค้าเรื่องไหนก่อน
ก็ค่อยมอบคัมภีร์เล่มนั้นให้เค้า
 
และเมื่อเค้าพร้อมจะไปต่อ
ดูท่าว่าเค้าสนใจเรื่องไหนเป็นพิเศษ
ก็ค่อยมอบคัมภีร์เล่มต่อไปให้
 
การมอบทีละคัมภีร์
ไล่เรียงไปทีละทักษะ
จะทำให้เค้าค่อย ๆ เก่งขึ้น
ตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น
 
ไม่ต้องไปกดดันให้เค้า
เก่งทุกอย่างในคราวเดียว
เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ครับ
 
 
5. ให้อิสระในการออกความคิดเห็น
 
เวลาคุณมอบหมายงาน
หรือโปรเจ็กต์อะไรบางอย่างกับเค้า
ให้บอกโจทย์ความต้องการ
เป็นข้อ ๆ ไปเลยครับ
 
เพื่อให้เค้าไปวางแผนต่อ
ระดมความคิดของตัวเอง
ออกมาได้อย่างเต็มที่
 
เช่น ...
 
บอกเค้าไปว่าคุณอยากให้เค้า
วางแผนการตลาดสำหรับสินค้าตัวนี้
โทนประมาณนี้ กลุ่มลูกค้าประมาณนี้
 
แล้วให้เค้าไปคิดต่อเอาเอง
ว่าจะต้องทำมันออกมาในรูปแบบไหน
หน้าตาเป็นยังไง
 
แล้วคุณก็คอยตรวจเช็ก
ความเหมาะสมอีกทีหนึ่ง
 
การสอนคนนั้น
คุณต้องพยายามไม่เผลอ
ไปลงมือทำแทนเค้า
 
ให้ทำหน้าที่เพียง Guideline
ที่เหลือคุณเป็นคนคอยตรวจ
อย่างเดียวว่าแบบไหนใช่ หรือไม่ใช่
 
และคอยให้คำชี้แนะ
ว่าต้องปรับอะไรตรงไหนบ้าง
 
นี่คือวิธีที่สอนแบบให้ประสบการณ์
แล้วเค้าจะเป็นเร็วที่สุดครับ
 
...................................
 
สำหรับลูกทีมบางคน คุณอาจปั้นเค้า
จนเก่งกว่าคุณในเรื่องนั้น ๆ ได้
 
เพราะเค้าอาจมีดีในทักษะนั้นอยู่แล้ว
และมีเวลาได้โฟกัสเต็มที่มากกว่าคุณ
 
คุณเพียงแค่ดึงเอาส่วนนั้นของเค้าออกมา
แล้วเอาส่วนที่ดีที่สุดของเราไปเสริมพลัง
ให้กับสิ่งที่เค้ามีอยู่
 
เมื่อเค้าช่วยดูแลงานด้านที่ถนัดมาก ๆ
แทนคุณได้ ทีนี้คุณก็จะลดภาระลงได้เยอะ
และทีมของคุณจะพุ่งทะยานได้ไวขึ้นด้วยครับ