"Like a Fish in Water (เหมือนปลาที่ได้อยู่ในน้ำ)"
เมื่อคุณได้อยู่กับ Element ของคุณ
คุณจะรู้สึกว่า “นี่คือการค้นพบตัวเอง”
Being in Your Element คือการทำอะไรบางอย่างที่สอดคล้องกับตัวตนโดยสมบูรณ์
ทำในสิ่งที่เราเรียกว่า "เกิดมาเพื่อสิ่งนี้"
(ตรงนี้ Sir Ken Robinson ใช้วลีว่า Your Authentic Self ความหมายมันลึกซึ้งตรงที่
กล่าวถึงสิ่งที่คุณตั้งใจเป็น และตั้งใจทำจริง ๆ โดยไม่ได้รับ "อิทธิพลมาจากใคร")
Being in Your Element ไม่ได้แค่หมายถึงการทำสิ่งที่คุณทำได้ดี แต่ยังต้องเป็นการทำสิ่งที่คุณรักมันอย่างหลงใหลหาตำแหน่งที่ “ความถนัดโดยธรรมชาติมาเจอกันกับ Passion ส่วนตัว” จุดนั้นจะเป็นการปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริง และนำมาซึ่งจุดประสงค์ที่มีความหมายในชีวิตคุณ
การค้นหา Element ของเรา ประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอน
1. ตรวจสอบตัวเอง
เพื่อเปิดเผยจุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อที่จะค้นให้เจอสิ่งที่คุณรักและทำให้มีความสุข
2. ตรวจสอบทัศนคติของเรา
ซึ่งเป็นสมมติฐานที่ก่อสร้างตัวเรามาตลอดเวลาที่ผ่านมาความจริงที่เคยรับรู้ในอดีตอาจจะมากีดขวางเราในการค้นหา Element ยกตัวอย่างเช่น คนส่วนมากที่เข้าใจผิดว่าตัวเองไม่ได้มีพรสวรรค์หรือ Passion ที่เด่นและเฉพาะตัว
3. มองออกมาจากขอบเขตเดิม
เพื่อที่จะค้นหาโอกาสที่โลกเสนอให้เรา เพื่อที่จะได้อยู่กับ Element ของเรา ในขั้นนี้ จงพยายามลองกิจกรรมใหม่ ท่องเที่ยวไปในที่ใหม่ ๆ และพบผู้คนใหม่ ๆ
หลักสำคัญในการใช้ เป็นวิธีคิดเพื่อค้นหา Element
1. Your life is unique.
คุณเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเหมือนใครในเชิงชีววิทยาแล้ว คุณเป็นพันธุกรรมที่เฉพาะตัวที่เป็นผลมาจากบรรพบุรุษที่มาเจอกัน และได้รับอิทธิผลมาจากวัฒนธรรมและสถานการณ์เฉพาะที่ตัวเองได้นำเข้ามา
2. You create your own life.
ชีววิทยากับสถานการณ์ได้กำหนดรูปร่างชีวิตของเรา (พันธุกรรมกับสิ่งแวดล้อม ที่ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า Genotype + Phenotype)
แต่มันไม่ได้กำหนด “วิถีทาง” จินตนาการของเราต่างหาก ที่สามารถร่างภาพอนาคตได้ และคุณสามารถเติมเต็มสิ่งที่คาดคิดไว้ด้วยการกระทำ
3.Life is organic
ไม่ว่าชีวิตของใครก็ตามนั้นไม่เคยเป็นเส้นตรง มันยากที่จะคาดเดาได้ ชีวิตเป็นปฏิกิริยาระหว่างลักษณะเฉพาะตัวของเรา กับโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงที่เรียงหน้ากันเข้ามาเป็นแถว จงเป็นผู้ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกและการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง
Finding Your Aptitude (การค้นหาความถนัดของตัวเอง)
ส่วนใหญ่คนที่ไม่สามารถค้นหาตัวเองเจอนั่นเป็นเพราะไม่สามารถแยกแยะความถนัดของตัวเองได้ ทั้งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ไม่ว่าจะเป็นพรสวรค์ หรือความสามารถพิเศษใด ๆ ความถนัดจะอธิบายถึงศักยภาพของเรา การที่จะพัฒนาความถนัดไปเป็นความสามารถเราต้องปรับแต่งผ่านทางการเรียนรู้และฝกฝน
ลิสต์กิจกรรมที่
1. คุณรอบรู้และเก่งกาจ
2. มันเป็นความถนัด
3. สิ่งที่คุณทำได้ไม่ค่อยดีนัก
ลิสต์เหล่านี้เป็นแค่การเริ่มต้นค้นหา บางทีคุณอาจจะมีความถนัดแอบแฝงพรสวรรค์ที่คุณเองก็ไม่รู้ว่าคุณมี รวมไปถึง “กิจกรรมที่ทำได้ดีที่คุณไม่ได้ลอง” และที่สำคัญ Element ของคุณอาจจะมาจาก List อันที่ 3 ซึ่งเรายังทำได้ไม่ค่อยดีนัก
Element ของคุณอาจจะพาคุณไปยังสถานที่ที่คุณยังไม่เคยสำรวจมาก่อน เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ Venezuela ที่ที่ซึ่งเด็กนับพันคนได้ค้นพบ Passion ต่อเพลงคลาสสิก
หลังจากที่ Jose Antonio Abreu ได้นำ Innovative Music Training Program ที่เรียกว่า El Sistema ถ้าปราศจาก El Sistema เด็ก ๆ เหล่านั้นจะไม่ได้สัมผัสกับดนตรีและความถนัดที่เพิ่งค้นพบนั้นจะยังคงเป็นแค่พรสวรรค์แฝงต่อไป
ส่วน Venezuela ก็จะยังไม่ถูกพัฒนาในด้านดนตรีในปี 1970 ที่นี่ยังไม่เคยมีวงออเคสตราที่นักดนตรีเป็นคนพื้นเมืองมาก่อน ซึ่งปัจจุบันที่นี่เป็นหนึ่งในประเทศที่มีวงออเคสตราที่ดีที่สุด บทเรียนจาก Venezuela บอกเราว่า การค้นหาประสบการณ์ใหม่ คือโอกาสที่จะค้นหาความสามารถที่แอบแฝงไว้
ทีนี่ลองมาพิจารณาที่ลิสต์ของกิจกรรมที่คุณ "คิดว่า" ยังทำได้ไม่ดีนัก จุดอ่อนบางอย่างก็เกิดจากเหตุการณ์ครั้งแรกที่เราได้เผชิญหน้ากับมัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นที่ "โรงเรียน" คนที่อยู่ในระบบการศึกษามักจะใช้การสอนแบบ Verbal Style เท่านั้น (การใช้เสียงฟังหรือพูดเพื่อการเรียนการสอน) แต่ความเป็นจริง แต่ละคนจะสนุกแตกต่างกันในหลาย ๆ สไตล์ตั้งแต่ Visual ถึง Kinesthetic (การมอง-การเคลื่อนไหวร่างกาย) ก็ไม่แปลกที่เราจะเรียนคณิตศาสตร์ได้ไม่ดีนัก ถ้าไม่ได้เรียนรู้ใน Style ที่เราชอบ
อย่าตีกรอบตัวเองโดยการค้นหาความถนัดแค่เพียงอย่างเดียวบางทีเราอาจจะมีพรสวรรค์ที่หลากหลาย และการมีมากกว่า 1 Elementนั้นเป็นเรื่องที่ปกติมาก ชีวิตไม่เคยดำเนินไปแบบเส้นตรง
ในกรณีของ Elizabeth Payne ที่ Passion เกี่ยวกับการวาดรูปได้เติบโตขึ้นมา ครูของเธอได้ส่งงานของเธอไปในการแข่งขันออกแบบ Costume และ Payne ได้ใช้ความถนัดที่ค้นพบนี้ในโรงละคร เธอได้ทำงานออกแบบชุดนักแสดงที่นั่น แต่แล้วเธอก็พบว่าไม่ได้สนุกกับมัน จนกระทั่งได้เปลี่ยนเส้นทางใหม่ คือเป็นครูสอนการออกแบบชุดในมหาวิทยาลัย
Finding Your Passion
Element ของคุณเป็นเส้นทางที่ความถนัดและ Passion วิ่งมาชนกัน เมื่อคุณรู้แล้วว่าทำอะไรได้ดีบ้าง ลองเอามาเลือกว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่คุณรักบ้าง คำว่า Passion นั้นหมายถึง การดึงดูดกับบางสิ่งอย่างลึกซึ้ง (Deep Personal Attraction to Something)
แรงดึงดูดหรือความกระตือรือร้นที่รุนแรงที่นำไปสู่การเติมเต็มที่ลึกซึ้ง Passion ส่งเสริมจิตวิญญาณของเรามันทั้งเติมพลังงาน จุดประกายจินตนาการ และเป็นแรงกระตุ้นให้ไล่ล่าเป้าหมาย
การค้นหา Passion ช่วยให้เส้นทางของเราชัดเจนในการอาศัยอยู่กับ Element Joseph Campbell เจ้าของประโยคที่ว่า Follow Your Bliss (ไล่ตามกลิ่นความสุข) พลังงานที่สร้างขึ้นเมื่อเราไล่ล่า Passion ดูเหมือนจะเสกโอกาสใหม่ในอากาศยิ่งถ้าได้พบกับคนที่มี Passion เดียวกัน ยิ่งทำให้เราสร้างพลังงานมากขึ้น และยังเปิดโอกาสใหม่ ๆ ตามมาได้อีกมากมาย
Finding Happiness
งานวิจัยบอกเราว่าคนส่วนมากไม่ได้มีความสุข 1 ในการศึกษาพบว่า 50% ของผู้ใหญ่ในอเมริกานั้นมีความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิตน้อยมาก และงานวิจัยที่ศึกษาจากประเทศอื่น ๆ ก็ค้นพบความจริงนี้เช่นกัน เราคาดว่าคนส่วนมากเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องความสุข และค้นหามันไปในวิธีที่ผิด คนส่หวนมากคิดว่าเราจำเป็นต้องอยู่ในสถานภาพที่เป็นอยู่ "เท่านั้น" ความคิดที่ว่าต้องเป็นแบบนี้ "เท่านั้น" เป็นแบบที่คนอื่นทำตาม ๆ กันมานั่นล่ะ ทำให้บางคนปักหมุดความหวังไปที่ความสุขในการหาเงินได้มากขึ้นคนส่วนมากล้มเหลวระหว่างการแยกแยะ ความพอใจชั่วคราว กับการมีความสุขโดยพื้นฐาน (Temporary Pleasures & Fundamentally Happy)
ความสุขที่แท้จริงนั้นไม่ใช่แค่ความพอใจระยะสั้น แต่เป็นสถานภาพทางจิตวิญญาณ ซึ่งผลนั้นมาจากการมี Deep Sense of Purpose "จุดประสงค์ลึกซึ้งในการมีอยู่ของชีวิต" เลือกเพาะบ่มจุดประสงค์ และความหมายที่ Element ของเราทำได้ดีที่สุด
Element ของเรานั้นทำงานเหมือนกับ Feedback Loop (วงผลสะท้อนกลับ)การอยู่กับ Element ของตัวเราทำให้เรามีความสุข และความสุขนั้นจะไปกระตุ้นคุณให้ยิ่งฝังตัวลงไปกับ Element อย่างเข้มข้นขึ้นซึ่งจะไปสร้างความสุขมากขึ้นแบบนี้วนต่อไปเรื่อย ๆ
Change of Attitude
ทัศนคติของเรามีบทบาทสำคัญในการกำหนดให้เราค้นหา Element การค้นหามุมที่ดีที่สุดในขีวิต นั้นเกี่ยวข้องกับความถนัดและ Passion ส่วนทัศนคติลบอย่างเช่น การขาดความมั่นใจ หรือกลัวการเปลี่ยนแปลงจะฉุดการค้นหาของเราอย่างรุนแรง การมองโลกในแง่ดีอย่างมีความมั่นใจในตนเอง และมีความแน่วแน่ที่จะสามารถทำลายอุปสรรคได้ทุกอย่าง
ทัศนคติสามารถสร้างกำแพงกีดขวางไม่ให้เราไปไหนได้ แต่กำแพงนั้นก็มีอยู่แค่ในใจของเรา และคุณสามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจได้
ถึงแม้สิ่งที่ได้มาจากพ่อแม่หรือสิ่งแวดล้อมจะหล่อหลอมเรามาจนถึงทุกวันนี้ แต่สุดท้ายคุณไม่ใช่ทาสของสิ่งเหล่านั้น เรากำหนดวิธีในการทำและคิดในอนาคตได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะลองเลือกมุมมองใหม่ ๆ ในการขบคิดไอเดียหรือข้อมูลใหม่ ๆ การค้นพบประสบการณ์สดใหม่จะหล่อหลอมให้เราเป็นคนใหม่
ความมั่นใจในตัวเองและการตัดสินใจอย่างแน่วแน่นั้นเป็นพลังงานที่คุณต้องการเพื่อที่จะพิชิตเป้าหมาย ความแน่วแน่ได้ช่วยให้ Sue Kent กลายเป็นนักนวดบำบัดได้ แม้ว่าเธอจะเกิดมาโดยที่ “ไม่มีแขนก็ตาม” เธอคิดว่าสามารถใช้เท้าของเธอนวดแทนได้ ไม่ใส่ใจในความสงสัยของคนอื่น ๆ คิดและใช้วิธีของตัวเองฝึกฝนกล้ามเนื้อที่จำอยู่เป็นหลายปีจนเธอสามารถตั้งบริษัทของตัวเองและเป็นนักบำบัดมืออาชีพให้แก่ทีมนักกีฬา Paralympic ของอังกฤษในปี 2012
Your Tribe (เผ่าของคุณ)
คุณต้องค้นหา “เผ่าพันธุ์” ที่มันซ่อนอยู่ในตัวคุณเอง โดยการมองสะท้อนจากความถนัด Passion ทัศนคติ ถึงเวลาแล้วที่จะใช้ความรู้ที่มีในตอนนี้พาเราออกไปข้างนอก โลกที่กว้างขึ้นจะเสนอตัวเลือกเพิ่มเติม และนั่นจะทำให้เราแยกแยะ Element ได้ชัดเจนขึ้น โลกที่ใหญ่ขึ้นจะเป็นที่ที่คุณสามารถประยุกต์เอาความถนัด Passion เข้าด้วยกัน
และไล่ตาม Element ของคุณ จงหางานที่คุณรัก ฝึกฝนพรสวรรค์ และเริ่มมีบทบาทในกลุ่มคนที่คิดคล้าย ๆ กัน นั่นจะทำให้เราผสมผสานกับ Element ได้กลมกลืนขึ้น
ลองประเมินสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุ, ความรับผิดชอบที่แบกรับ หรือสถานภาพทางการเงินมองดูอุปสรรคที่จะต้องเผชิญ และพิจารณาว่าต้อง “ใช้อะไร” เพื่อที่จะไปก้าวผ่านไป
เก็บสะสมทรัพยากรที่จำเป็น จำไว้เสมอว่าจุดเริ่มต้นของชีวิตไม่ได้กำหนดจุดสุดท้าย ไม่ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะเป็นแบบไหนเราสามารถก้าวขาออกมาเพื่อมุ่งไปยัง Element ของเราได้ตลอดเวลา
เมื่อเริ่มการค้นหา Tribe ของคุณ คุณจะได้เจอ “กลุ่มคนที่แชร์ Passion เดียวกัน” คนพวกนี้จะช่วยยืนยันเสริมให้เราแน่วแน่กับสิ่งที่เราทำอยู่ และลดความรู้สึกที่ต้องโดดเดี่ยว
สมาชิก Tribe ของคุณจะช่วยเหลือให้คุณได้อาศัยอยู่กับ Element ได้ง่ายขึ้น พวกเค้าสามารถชี้นำทาง เปิดประตูให้คุณ หรือเชื่อมต่อกับสมาชิกคนอื่น ๆ ผู้คนที่มี Passion เดียวกันจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แม้กระทั่งว่าลูกค้าเป้าหมายอาจจะเป็นคนเดียวกันก็ตาม
จงไปค้นหาเผ่าพันธุ์เดียวกันซะ เมื่อเราได้เจอเผ่าพันธุ์เดียวกันแล้วให้ลองศึกษาวัฒนธรรม ความเชื่อ ความเป็นไปในแต่ละวัน แล้วกลับมาถามตัวเองว่า นี่คือโลกที่เราอยากอยู่หรือเปล่า? แต่เราจะหาคนกลุ่มนี้เจอได้ยังไง
จริง ๆ แล้ว เค้าก็ไม่ได้ซ่อนตัวอะไรครับ คนพวกนี้จะป่าวประกาศตัวตนผ่าน Social Media อยู่แล้ว และไปรวมกลุ่มกันตั้งสมาคมต่าง ๆ ซึ่งวิธีการสร้างคอนเนกชันก็คือ สมัครเข้าไปในคอร์สหรือเวิร์กช็อป ลองเข้าไปทำงานอาสาสมัคร ลองไปเป็นพนักงานฝึกหัดในชีวิตจริง
Living Your Element (อยู่กับ Element ของคุณ)
เมื่อคุณเชื่อว่าได้รู้ถึง Element ของตัวเองแล้ว เตรียมตัวทั้งใจและกายให้พร้อมที่จะอาศัยอยู่กับมัน ขณะที่เราลองนึกภาพดู จะพบว่าความรู้สึกจะมีทั้งขึ้นลงสลับกัน บางทีคึกคัก พลังงานเต็มเปี่ยม แต่บางทีก็สับสนนั่นละครับ ระดับ Passion ที่มากพอ ถึงจำเป็นที่จะทำให้เราผ่านช่วงนี้ไปได้
ช่วงแรกนั้นต้องเริ่มต้นด้วยการฝึกฝนการอบรม วิ่งเข้าหาประสบการณ์อะไรก็ตามที่เราต้องการใช้เพื่อติดตาม Passion ของเราไปอาจจะเป็นการเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการ โปรแกรมทางเลือกอื่น ๆ (เช่น หมอสายทางเลือกแนวทางที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในหลักสูตรหรือระบบเก่า ๆ) หรือแม้แต่สายอาชีพก็ตาม
ต้องคิดหาทางเชื่อมรอยต่อนี้ให้ดี และพิจารณาว่า “จำเป็นหรือเปล่าที่จะต้องหยุดสิ่งที่ทำอยู่ในชีวิตเพื่อจะไปอยู่กับ Element ที่แท้จริง?” เตรียมแผนที่จะรับมือสิ่งที่จะเกิดขึ้น เช่น เรื่องการเงิน หรือการโน้มน้าวคนที่มีผลต่อการเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเรา (พ่อแม่, ครู…)
อย่ากังวลที่จะต้องวางแผนเส้นทางอย่าง Perfect หรือพยายามป้องกันทุกอุปสรรคตั้งแต่แรกอย่างที่ Martin Luther King บอกไว้ว่า “เราไม่สามารถเห็นอุปสรรคทั้งหมดจากจุดเริ่มต้น จงก้าวออกไป ก้าวแรกนั้นสำคัญที่สุด”
เพราะนั่นนำมาซึ่งโอกาสใหม่ ความเป็นไปได้ใหม่ หรือแม้แต่ความเสี่ยงใหม่ ๆ อยู่แล้ว
สุดท้ายประเด็นมันก็อยู่ที่วิธีการในการตอบสนองสิ่งเหล่านั้น ฝึกฝนจนเข้าใจใน Element ของตัวคุณเอง และคุณจะตอบสนองทุกอย่างไปในทิศทางที่เปลี่ยนชีวิตของคุณไปตลอดกาล
Take Aways
Being in Your Element จงเป็นอย่างที่ Element ของคุณมี คำว่า Element แปลได้ว่า ธาตุ ในที่นี้ Sir Ken Robinson นั้นหมายถึงสิ่งที่เป็นแก่นของเรา คล้าย ๆ กับความเชื่อเรื่องธาตุไฟ, ธาตุน้ำ, ธาตุดิน
Being in Your Element นั้นหมายความว่าทำงานหรือกิจกรรมในอย่างที่คุณมีพรสวรรค์ อย่างที่เราเป็น
- ตัวคุณเองอาจจะมีพรสวรรค์ที่แอบแฝงอยู่ ซึ่งเราไม่เคยเห็นหรือไม่เคยคาดคิดมาก่อน หรือความถนัดในบางเรื่องที่เราคิดว่าไม่ได้ทำได้ดีนัก
- การหา Element ของตัวเองประกอบด้วย 3 ส่วน
อันดับแรก ลิสต์จุดแข็งและจุดอ่อน จากนั้นแยกแยะสิ่งที่คุณรักและอะไรที่ทำให้คุณมีความสุข
อันดับที่ 2 ตรวจเช็กทัศนคติที่คอยผลักดันคุณอยู่ คิดในมุมที่ว่าคุณกำลังขาดพรสวรรค์ หรือ Passion
ผลักความคิดในแง่ดีออกไปชั่วคราว เพื่อค้นหา Element ของคุณ
อันดับที่ 3 มองสิ่งใหม่ที่ไกลออกไปจากสิ่งที่เราทำอยู่ กิจกรรมใหม่, การท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ และผู้คนใหม่ ๆ
-ไม่สำคัญว่าสถานการณ์ของเราตอนนี้จะเป็นยังไง จงเคลื่อนออกไปในทิศทางที่พุ่งเข้าหา Element ของคุณ
- ค้นหา "Tribe" (เผ่าพันธุ์) คือกลุ่มคนอื่น ๆ ที่มี Passion เดียวกันกับเรา
- มันเป็นไปได้ที่คุณอาจจะมีพรสวรรค์หลายอย่าง และ Element ของเราอาจจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
- ใช้หลักการ 3 อย่างนี้ เพื่อค้นหา Element นั้น :
1. คุณเป็นสิ่งที่ไม่เหมือนใคร
2. คุณเป็นคนสร้างชีวิตของตัวเอง
3. เส้นทางของชีวิตนั้นไม่ได้เป็นเส้นตรง แต่มันเป็น Organic (คำนี้กล่าวถึงลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่คาดเดาได้ยาก มีหลายทางเลือกในสถานการณ์เดียวกัน)
เมื่อคุณได้อยู่กับ Element ของคุณ
คุณจะรู้สึกว่า “นี่คือการค้นพบตัวเอง”
Being in Your Element คือการทำอะไรบางอย่างที่สอดคล้องกับตัวตนโดยสมบูรณ์
ทำในสิ่งที่เราเรียกว่า "เกิดมาเพื่อสิ่งนี้"
(ตรงนี้ Sir Ken Robinson ใช้วลีว่า Your Authentic Self ความหมายมันลึกซึ้งตรงที่
กล่าวถึงสิ่งที่คุณตั้งใจเป็น และตั้งใจทำจริง ๆ โดยไม่ได้รับ "อิทธิพลมาจากใคร")
Being in Your Element ไม่ได้แค่หมายถึงการทำสิ่งที่คุณทำได้ดี แต่ยังต้องเป็นการทำสิ่งที่คุณรักมันอย่างหลงใหลหาตำแหน่งที่ “ความถนัดโดยธรรมชาติมาเจอกันกับ Passion ส่วนตัว” จุดนั้นจะเป็นการปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริง และนำมาซึ่งจุดประสงค์ที่มีความหมายในชีวิตคุณ
การค้นหา Element ของเรา ประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอน
1. ตรวจสอบตัวเอง
เพื่อเปิดเผยจุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อที่จะค้นให้เจอสิ่งที่คุณรักและทำให้มีความสุข
2. ตรวจสอบทัศนคติของเรา
ซึ่งเป็นสมมติฐานที่ก่อสร้างตัวเรามาตลอดเวลาที่ผ่านมาความจริงที่เคยรับรู้ในอดีตอาจจะมากีดขวางเราในการค้นหา Element ยกตัวอย่างเช่น คนส่วนมากที่เข้าใจผิดว่าตัวเองไม่ได้มีพรสวรรค์หรือ Passion ที่เด่นและเฉพาะตัว
3. มองออกมาจากขอบเขตเดิม
เพื่อที่จะค้นหาโอกาสที่โลกเสนอให้เรา เพื่อที่จะได้อยู่กับ Element ของเรา ในขั้นนี้ จงพยายามลองกิจกรรมใหม่ ท่องเที่ยวไปในที่ใหม่ ๆ และพบผู้คนใหม่ ๆ
หลักสำคัญในการใช้ เป็นวิธีคิดเพื่อค้นหา Element
1. Your life is unique.
คุณเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเหมือนใครในเชิงชีววิทยาแล้ว คุณเป็นพันธุกรรมที่เฉพาะตัวที่เป็นผลมาจากบรรพบุรุษที่มาเจอกัน และได้รับอิทธิผลมาจากวัฒนธรรมและสถานการณ์เฉพาะที่ตัวเองได้นำเข้ามา
2. You create your own life.
ชีววิทยากับสถานการณ์ได้กำหนดรูปร่างชีวิตของเรา (พันธุกรรมกับสิ่งแวดล้อม ที่ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า Genotype + Phenotype)
แต่มันไม่ได้กำหนด “วิถีทาง” จินตนาการของเราต่างหาก ที่สามารถร่างภาพอนาคตได้ และคุณสามารถเติมเต็มสิ่งที่คาดคิดไว้ด้วยการกระทำ
3.Life is organic
ไม่ว่าชีวิตของใครก็ตามนั้นไม่เคยเป็นเส้นตรง มันยากที่จะคาดเดาได้ ชีวิตเป็นปฏิกิริยาระหว่างลักษณะเฉพาะตัวของเรา กับโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงที่เรียงหน้ากันเข้ามาเป็นแถว จงเป็นผู้ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกและการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง
Finding Your Aptitude (การค้นหาความถนัดของตัวเอง)
ส่วนใหญ่คนที่ไม่สามารถค้นหาตัวเองเจอนั่นเป็นเพราะไม่สามารถแยกแยะความถนัดของตัวเองได้ ทั้งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ไม่ว่าจะเป็นพรสวรค์ หรือความสามารถพิเศษใด ๆ ความถนัดจะอธิบายถึงศักยภาพของเรา การที่จะพัฒนาความถนัดไปเป็นความสามารถเราต้องปรับแต่งผ่านทางการเรียนรู้และฝกฝน
ลิสต์กิจกรรมที่
1. คุณรอบรู้และเก่งกาจ
2. มันเป็นความถนัด
3. สิ่งที่คุณทำได้ไม่ค่อยดีนัก
ลิสต์เหล่านี้เป็นแค่การเริ่มต้นค้นหา บางทีคุณอาจจะมีความถนัดแอบแฝงพรสวรรค์ที่คุณเองก็ไม่รู้ว่าคุณมี รวมไปถึง “กิจกรรมที่ทำได้ดีที่คุณไม่ได้ลอง” และที่สำคัญ Element ของคุณอาจจะมาจาก List อันที่ 3 ซึ่งเรายังทำได้ไม่ค่อยดีนัก
Element ของคุณอาจจะพาคุณไปยังสถานที่ที่คุณยังไม่เคยสำรวจมาก่อน เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ Venezuela ที่ที่ซึ่งเด็กนับพันคนได้ค้นพบ Passion ต่อเพลงคลาสสิก
หลังจากที่ Jose Antonio Abreu ได้นำ Innovative Music Training Program ที่เรียกว่า El Sistema ถ้าปราศจาก El Sistema เด็ก ๆ เหล่านั้นจะไม่ได้สัมผัสกับดนตรีและความถนัดที่เพิ่งค้นพบนั้นจะยังคงเป็นแค่พรสวรรค์แฝงต่อไป
ส่วน Venezuela ก็จะยังไม่ถูกพัฒนาในด้านดนตรีในปี 1970 ที่นี่ยังไม่เคยมีวงออเคสตราที่นักดนตรีเป็นคนพื้นเมืองมาก่อน ซึ่งปัจจุบันที่นี่เป็นหนึ่งในประเทศที่มีวงออเคสตราที่ดีที่สุด บทเรียนจาก Venezuela บอกเราว่า การค้นหาประสบการณ์ใหม่ คือโอกาสที่จะค้นหาความสามารถที่แอบแฝงไว้
ทีนี่ลองมาพิจารณาที่ลิสต์ของกิจกรรมที่คุณ "คิดว่า" ยังทำได้ไม่ดีนัก จุดอ่อนบางอย่างก็เกิดจากเหตุการณ์ครั้งแรกที่เราได้เผชิญหน้ากับมัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นที่ "โรงเรียน" คนที่อยู่ในระบบการศึกษามักจะใช้การสอนแบบ Verbal Style เท่านั้น (การใช้เสียงฟังหรือพูดเพื่อการเรียนการสอน) แต่ความเป็นจริง แต่ละคนจะสนุกแตกต่างกันในหลาย ๆ สไตล์ตั้งแต่ Visual ถึง Kinesthetic (การมอง-การเคลื่อนไหวร่างกาย) ก็ไม่แปลกที่เราจะเรียนคณิตศาสตร์ได้ไม่ดีนัก ถ้าไม่ได้เรียนรู้ใน Style ที่เราชอบ
อย่าตีกรอบตัวเองโดยการค้นหาความถนัดแค่เพียงอย่างเดียวบางทีเราอาจจะมีพรสวรรค์ที่หลากหลาย และการมีมากกว่า 1 Elementนั้นเป็นเรื่องที่ปกติมาก ชีวิตไม่เคยดำเนินไปแบบเส้นตรง
ในกรณีของ Elizabeth Payne ที่ Passion เกี่ยวกับการวาดรูปได้เติบโตขึ้นมา ครูของเธอได้ส่งงานของเธอไปในการแข่งขันออกแบบ Costume และ Payne ได้ใช้ความถนัดที่ค้นพบนี้ในโรงละคร เธอได้ทำงานออกแบบชุดนักแสดงที่นั่น แต่แล้วเธอก็พบว่าไม่ได้สนุกกับมัน จนกระทั่งได้เปลี่ยนเส้นทางใหม่ คือเป็นครูสอนการออกแบบชุดในมหาวิทยาลัย
Finding Your Passion
Element ของคุณเป็นเส้นทางที่ความถนัดและ Passion วิ่งมาชนกัน เมื่อคุณรู้แล้วว่าทำอะไรได้ดีบ้าง ลองเอามาเลือกว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่คุณรักบ้าง คำว่า Passion นั้นหมายถึง การดึงดูดกับบางสิ่งอย่างลึกซึ้ง (Deep Personal Attraction to Something)
แรงดึงดูดหรือความกระตือรือร้นที่รุนแรงที่นำไปสู่การเติมเต็มที่ลึกซึ้ง Passion ส่งเสริมจิตวิญญาณของเรามันทั้งเติมพลังงาน จุดประกายจินตนาการ และเป็นแรงกระตุ้นให้ไล่ล่าเป้าหมาย
การค้นหา Passion ช่วยให้เส้นทางของเราชัดเจนในการอาศัยอยู่กับ Element Joseph Campbell เจ้าของประโยคที่ว่า Follow Your Bliss (ไล่ตามกลิ่นความสุข) พลังงานที่สร้างขึ้นเมื่อเราไล่ล่า Passion ดูเหมือนจะเสกโอกาสใหม่ในอากาศยิ่งถ้าได้พบกับคนที่มี Passion เดียวกัน ยิ่งทำให้เราสร้างพลังงานมากขึ้น และยังเปิดโอกาสใหม่ ๆ ตามมาได้อีกมากมาย
Finding Happiness
งานวิจัยบอกเราว่าคนส่วนมากไม่ได้มีความสุข 1 ในการศึกษาพบว่า 50% ของผู้ใหญ่ในอเมริกานั้นมีความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิตน้อยมาก และงานวิจัยที่ศึกษาจากประเทศอื่น ๆ ก็ค้นพบความจริงนี้เช่นกัน เราคาดว่าคนส่วนมากเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องความสุข และค้นหามันไปในวิธีที่ผิด คนส่หวนมากคิดว่าเราจำเป็นต้องอยู่ในสถานภาพที่เป็นอยู่ "เท่านั้น" ความคิดที่ว่าต้องเป็นแบบนี้ "เท่านั้น" เป็นแบบที่คนอื่นทำตาม ๆ กันมานั่นล่ะ ทำให้บางคนปักหมุดความหวังไปที่ความสุขในการหาเงินได้มากขึ้นคนส่วนมากล้มเหลวระหว่างการแยกแยะ ความพอใจชั่วคราว กับการมีความสุขโดยพื้นฐาน (Temporary Pleasures & Fundamentally Happy)
ความสุขที่แท้จริงนั้นไม่ใช่แค่ความพอใจระยะสั้น แต่เป็นสถานภาพทางจิตวิญญาณ ซึ่งผลนั้นมาจากการมี Deep Sense of Purpose "จุดประสงค์ลึกซึ้งในการมีอยู่ของชีวิต" เลือกเพาะบ่มจุดประสงค์ และความหมายที่ Element ของเราทำได้ดีที่สุด
Element ของเรานั้นทำงานเหมือนกับ Feedback Loop (วงผลสะท้อนกลับ)การอยู่กับ Element ของตัวเราทำให้เรามีความสุข และความสุขนั้นจะไปกระตุ้นคุณให้ยิ่งฝังตัวลงไปกับ Element อย่างเข้มข้นขึ้นซึ่งจะไปสร้างความสุขมากขึ้นแบบนี้วนต่อไปเรื่อย ๆ
Change of Attitude
ทัศนคติของเรามีบทบาทสำคัญในการกำหนดให้เราค้นหา Element การค้นหามุมที่ดีที่สุดในขีวิต นั้นเกี่ยวข้องกับความถนัดและ Passion ส่วนทัศนคติลบอย่างเช่น การขาดความมั่นใจ หรือกลัวการเปลี่ยนแปลงจะฉุดการค้นหาของเราอย่างรุนแรง การมองโลกในแง่ดีอย่างมีความมั่นใจในตนเอง และมีความแน่วแน่ที่จะสามารถทำลายอุปสรรคได้ทุกอย่าง
ทัศนคติสามารถสร้างกำแพงกีดขวางไม่ให้เราไปไหนได้ แต่กำแพงนั้นก็มีอยู่แค่ในใจของเรา และคุณสามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจได้
ถึงแม้สิ่งที่ได้มาจากพ่อแม่หรือสิ่งแวดล้อมจะหล่อหลอมเรามาจนถึงทุกวันนี้ แต่สุดท้ายคุณไม่ใช่ทาสของสิ่งเหล่านั้น เรากำหนดวิธีในการทำและคิดในอนาคตได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะลองเลือกมุมมองใหม่ ๆ ในการขบคิดไอเดียหรือข้อมูลใหม่ ๆ การค้นพบประสบการณ์สดใหม่จะหล่อหลอมให้เราเป็นคนใหม่
ความมั่นใจในตัวเองและการตัดสินใจอย่างแน่วแน่นั้นเป็นพลังงานที่คุณต้องการเพื่อที่จะพิชิตเป้าหมาย ความแน่วแน่ได้ช่วยให้ Sue Kent กลายเป็นนักนวดบำบัดได้ แม้ว่าเธอจะเกิดมาโดยที่ “ไม่มีแขนก็ตาม” เธอคิดว่าสามารถใช้เท้าของเธอนวดแทนได้ ไม่ใส่ใจในความสงสัยของคนอื่น ๆ คิดและใช้วิธีของตัวเองฝึกฝนกล้ามเนื้อที่จำอยู่เป็นหลายปีจนเธอสามารถตั้งบริษัทของตัวเองและเป็นนักบำบัดมืออาชีพให้แก่ทีมนักกีฬา Paralympic ของอังกฤษในปี 2012
Your Tribe (เผ่าของคุณ)
คุณต้องค้นหา “เผ่าพันธุ์” ที่มันซ่อนอยู่ในตัวคุณเอง โดยการมองสะท้อนจากความถนัด Passion ทัศนคติ ถึงเวลาแล้วที่จะใช้ความรู้ที่มีในตอนนี้พาเราออกไปข้างนอก โลกที่กว้างขึ้นจะเสนอตัวเลือกเพิ่มเติม และนั่นจะทำให้เราแยกแยะ Element ได้ชัดเจนขึ้น โลกที่ใหญ่ขึ้นจะเป็นที่ที่คุณสามารถประยุกต์เอาความถนัด Passion เข้าด้วยกัน
และไล่ตาม Element ของคุณ จงหางานที่คุณรัก ฝึกฝนพรสวรรค์ และเริ่มมีบทบาทในกลุ่มคนที่คิดคล้าย ๆ กัน นั่นจะทำให้เราผสมผสานกับ Element ได้กลมกลืนขึ้น
ลองประเมินสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุ, ความรับผิดชอบที่แบกรับ หรือสถานภาพทางการเงินมองดูอุปสรรคที่จะต้องเผชิญ และพิจารณาว่าต้อง “ใช้อะไร” เพื่อที่จะไปก้าวผ่านไป
เก็บสะสมทรัพยากรที่จำเป็น จำไว้เสมอว่าจุดเริ่มต้นของชีวิตไม่ได้กำหนดจุดสุดท้าย ไม่ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะเป็นแบบไหนเราสามารถก้าวขาออกมาเพื่อมุ่งไปยัง Element ของเราได้ตลอดเวลา
เมื่อเริ่มการค้นหา Tribe ของคุณ คุณจะได้เจอ “กลุ่มคนที่แชร์ Passion เดียวกัน” คนพวกนี้จะช่วยยืนยันเสริมให้เราแน่วแน่กับสิ่งที่เราทำอยู่ และลดความรู้สึกที่ต้องโดดเดี่ยว
สมาชิก Tribe ของคุณจะช่วยเหลือให้คุณได้อาศัยอยู่กับ Element ได้ง่ายขึ้น พวกเค้าสามารถชี้นำทาง เปิดประตูให้คุณ หรือเชื่อมต่อกับสมาชิกคนอื่น ๆ ผู้คนที่มี Passion เดียวกันจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แม้กระทั่งว่าลูกค้าเป้าหมายอาจจะเป็นคนเดียวกันก็ตาม
จงไปค้นหาเผ่าพันธุ์เดียวกันซะ เมื่อเราได้เจอเผ่าพันธุ์เดียวกันแล้วให้ลองศึกษาวัฒนธรรม ความเชื่อ ความเป็นไปในแต่ละวัน แล้วกลับมาถามตัวเองว่า นี่คือโลกที่เราอยากอยู่หรือเปล่า? แต่เราจะหาคนกลุ่มนี้เจอได้ยังไง
จริง ๆ แล้ว เค้าก็ไม่ได้ซ่อนตัวอะไรครับ คนพวกนี้จะป่าวประกาศตัวตนผ่าน Social Media อยู่แล้ว และไปรวมกลุ่มกันตั้งสมาคมต่าง ๆ ซึ่งวิธีการสร้างคอนเนกชันก็คือ สมัครเข้าไปในคอร์สหรือเวิร์กช็อป ลองเข้าไปทำงานอาสาสมัคร ลองไปเป็นพนักงานฝึกหัดในชีวิตจริง
Living Your Element (อยู่กับ Element ของคุณ)
เมื่อคุณเชื่อว่าได้รู้ถึง Element ของตัวเองแล้ว เตรียมตัวทั้งใจและกายให้พร้อมที่จะอาศัยอยู่กับมัน ขณะที่เราลองนึกภาพดู จะพบว่าความรู้สึกจะมีทั้งขึ้นลงสลับกัน บางทีคึกคัก พลังงานเต็มเปี่ยม แต่บางทีก็สับสนนั่นละครับ ระดับ Passion ที่มากพอ ถึงจำเป็นที่จะทำให้เราผ่านช่วงนี้ไปได้
ช่วงแรกนั้นต้องเริ่มต้นด้วยการฝึกฝนการอบรม วิ่งเข้าหาประสบการณ์อะไรก็ตามที่เราต้องการใช้เพื่อติดตาม Passion ของเราไปอาจจะเป็นการเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการ โปรแกรมทางเลือกอื่น ๆ (เช่น หมอสายทางเลือกแนวทางที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในหลักสูตรหรือระบบเก่า ๆ) หรือแม้แต่สายอาชีพก็ตาม
ต้องคิดหาทางเชื่อมรอยต่อนี้ให้ดี และพิจารณาว่า “จำเป็นหรือเปล่าที่จะต้องหยุดสิ่งที่ทำอยู่ในชีวิตเพื่อจะไปอยู่กับ Element ที่แท้จริง?” เตรียมแผนที่จะรับมือสิ่งที่จะเกิดขึ้น เช่น เรื่องการเงิน หรือการโน้มน้าวคนที่มีผลต่อการเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเรา (พ่อแม่, ครู…)
อย่ากังวลที่จะต้องวางแผนเส้นทางอย่าง Perfect หรือพยายามป้องกันทุกอุปสรรคตั้งแต่แรกอย่างที่ Martin Luther King บอกไว้ว่า “เราไม่สามารถเห็นอุปสรรคทั้งหมดจากจุดเริ่มต้น จงก้าวออกไป ก้าวแรกนั้นสำคัญที่สุด”
เพราะนั่นนำมาซึ่งโอกาสใหม่ ความเป็นไปได้ใหม่ หรือแม้แต่ความเสี่ยงใหม่ ๆ อยู่แล้ว
สุดท้ายประเด็นมันก็อยู่ที่วิธีการในการตอบสนองสิ่งเหล่านั้น ฝึกฝนจนเข้าใจใน Element ของตัวคุณเอง และคุณจะตอบสนองทุกอย่างไปในทิศทางที่เปลี่ยนชีวิตของคุณไปตลอดกาล
Take Aways
Being in Your Element จงเป็นอย่างที่ Element ของคุณมี คำว่า Element แปลได้ว่า ธาตุ ในที่นี้ Sir Ken Robinson นั้นหมายถึงสิ่งที่เป็นแก่นของเรา คล้าย ๆ กับความเชื่อเรื่องธาตุไฟ, ธาตุน้ำ, ธาตุดิน
Being in Your Element นั้นหมายความว่าทำงานหรือกิจกรรมในอย่างที่คุณมีพรสวรรค์ อย่างที่เราเป็น
- ตัวคุณเองอาจจะมีพรสวรรค์ที่แอบแฝงอยู่ ซึ่งเราไม่เคยเห็นหรือไม่เคยคาดคิดมาก่อน หรือความถนัดในบางเรื่องที่เราคิดว่าไม่ได้ทำได้ดีนัก
- การหา Element ของตัวเองประกอบด้วย 3 ส่วน
อันดับแรก ลิสต์จุดแข็งและจุดอ่อน จากนั้นแยกแยะสิ่งที่คุณรักและอะไรที่ทำให้คุณมีความสุข
อันดับที่ 2 ตรวจเช็กทัศนคติที่คอยผลักดันคุณอยู่ คิดในมุมที่ว่าคุณกำลังขาดพรสวรรค์ หรือ Passion
ผลักความคิดในแง่ดีออกไปชั่วคราว เพื่อค้นหา Element ของคุณ
อันดับที่ 3 มองสิ่งใหม่ที่ไกลออกไปจากสิ่งที่เราทำอยู่ กิจกรรมใหม่, การท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ และผู้คนใหม่ ๆ
-ไม่สำคัญว่าสถานการณ์ของเราตอนนี้จะเป็นยังไง จงเคลื่อนออกไปในทิศทางที่พุ่งเข้าหา Element ของคุณ
- ค้นหา "Tribe" (เผ่าพันธุ์) คือกลุ่มคนอื่น ๆ ที่มี Passion เดียวกันกับเรา
- มันเป็นไปได้ที่คุณอาจจะมีพรสวรรค์หลายอย่าง และ Element ของเราอาจจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
- ใช้หลักการ 3 อย่างนี้ เพื่อค้นหา Element นั้น :
1. คุณเป็นสิ่งที่ไม่เหมือนใคร
2. คุณเป็นคนสร้างชีวิตของตัวเอง
3. เส้นทางของชีวิตนั้นไม่ได้เป็นเส้นตรง แต่มันเป็น Organic (คำนี้กล่าวถึงลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่คาดเดาได้ยาก มีหลายทางเลือกในสถานการณ์เดียวกัน)
