1. #ทำคลิปให้คนสงสัย ไม่ใช่ผลักไส
เพราะส่วนใหญ่เราจะดูสินค้าที่เราสนใจ
หรืออยากซื้ออยู่แล้วเท่านั้น
ถ้าเป็นสินค้าใหม่ๆ ที่ยังไม่รู้จัก
เห็นปุ๊ประบบการป้องกันการใช้จ่าย
จะปัดคลิปหนีทันที
เริ่มลำดับใหม่
มีปัญหา ถึงจะมีงบในการแก้ปัญหา
มีจุดประสงค์ในการใช้งาน
ก็มีงบในการซื้อมาติดไว้ที่บ้าน
คอยเชื่อมไปทีละจุด
คุยถึงปัญหา /เล่าให้ฟังถึงผลลัพธ์
แล้วค่อยโยงมาที่สินค้า
ถ้าคนดูมาถึงครึ่งทาง
และเริ่มมีความสนใจ
เค้าก็มักจะดูต่อจนจบ
และที่สำคัญอย่าตัดใจ
ถ้าคลิปมันไม่ปังใน TikTok
เพราะตอนนี้คุณลงได้ทุกที่
มีลูกศิษย์หลายเคสเล่าให้ฟังว่า
คลิปบางคลิปไม่ปังใน TikTok แต่ไปปังใน Reels
คลิปบางคลิปไม่ปังใน Reels แต่ปังใน TikTok
2. #ปรับสูตรคิดคอนเทนต์
เป็น 3 จิ๊กซอว์ในการคิดคอนเทนต์
เทรนด์ + Pain Point + จุดขาย
3 องค์ประกอบ
ในการคิด Content ในสไตล์ TikTok
เพราะ TikTok มีการยกประเด็นใหม่ๆ
ในรูปแบบของ Hashtag หรือเทรนด์มาคอยเล่น
เรียกว่าทำการตลาดกับ Users
ในประเทศไทยโดยเฉพาะเลย
โดยปกติเราจะคิดคอนเทนต์
ด้วยการผูก Pain Point ของลูกค้า
กับจุดขายที่ แก้ปัญหานั้นได้
เทรนด์ คลื่นหนุนคลิปของเรา
อยู่ในรูปแบบที่ # ดังๆในช่วงนั้น
คลาสแฟชั่น
เมนูทำง่าย
ยกตัวอย่าง
เทคนิคในการเชื่อมโยงกัน
สินค้าเป็นอาหารเสริมโปรตีน
กับ #ห้องครัวTiktok
ทำอาหารกินตามใจ แล้วจบด้วยโปรตีนสินค้าของเรา
ชูคอนเซปต์มื้อไหนก็โปรตีนแน่น ๆ ได้
ด้วยสินค้าของเรา
สินค้าเป็นครีมหน้าขาว
กับ #เกมเมอร์
เล่นเกมจนดึก
นอนน้อยลุกขึ้นมาเล่นเกม
สู้ชีวิตต่อ ทำไหมยังหน้าใส
เพราะใช้สินค้า xxx ของเรา
สินค้าเป็นเฟอร์นิเจอร์
กับ #การเงิน
นั่งทำงานในสีมงคล
ทำอะไรก็ลื่นไหลดี ติดขัดน้อยกว่า
เอาความมูเตลู ที่สร้างความสบายใจ
และความเชือมั่นในการทำงานมาเป็นกลยุทธ์
3 #สวัสดีให้น้อยลง
มีแค่ 3 วินาทีเท่านั้น
ที่จะทำให้คนดุต่ออีก 30 วินาที
คลิปของเราเบรกลูกค้าให้อยู่
ลูกค้าไถฟีดเลื่อนผ่านช่องเราไป
ดังนั้น 3 วินาที
ไม่ต้องสวัสดี เข้าเรื่องได้ดีเลย
เปิดแผล ขยี้ Pain point
หรือ Goal เป็นหลัก
ถ้าอยากให้คนหยุดดูมากขึ้น
ให้ใส่ “ฟีลลิ่งบนใบหน้า”
กล้ามเนื้อใบหน้า
ต้องทำงานหนักกันเลยทีเดียว
เพราะสายตาคนจะโฟกัส
คนที่แสดงความรู้สึกมากกว่าปกติ
ต่อจากนั้น
ให้คนดูคลิปจนอยากซื้อ
จั่วหัวได้แล้ว รั้งลูกค้าต่อยังไง
การจั่วหัวเป็นการเปิดโอกาส
แต่ไม่มีทางที่ลูกค้าจะอยากซื้อสินค้าเรา
จากการฟังแค่ 3-4 วินาที
เพื่อดึงลูกตาของคนดู
ให้ไปต่อกับคลิปของเรา
ใน 2-3 วิ ต้องเปลี่ยน
Scene /ฉาก/มุมกล้อง
ให้ลูกค้ารู้สึกว่าการดำเนินเรื่องกระชับ
และเข้าประเด็นต่อเนื่อง
4. #เรียกคนดูมาแล้ว
อย่าลืมเรียกยอดขายด้วย
ดูจนจบแล้วให้เค้าทำอะไรต่อ
กดติดตาม Comment
หรือสั่งซื้อสินค้า
จะพูดผ่านคลิปเลยก็ได้
หรือจะเขียนเป็นข้อความในคลิปแบบชัดๆ
ก็ไม่มีปัญหา
อย่าคิดว่าสินค้าคุณดัง
แล้วคนจะรู้จักทุกคน
อย่าคิดว่าพูดถึงทุกวัน
แล้วลูกค้าจะรู้ว่ามีสินค้าอะไรบ้าง
และถ้าแนะนำ Call to action ที่สำคัญที่สุดก็คือ
-คอมเมนต์เปิดเผยคนที่สนใจให้แสดงตัว
เราจะได้ติดตามกลับหรือทักไป
และได้เห็นแนวโน้มความสนใจสินค้า
-สั่งซื้อเปลี่ยนความสนใจของลูกค้า
ให้เป็น Order จริงๆ จะให้ไปสั่งใน TikTok Shop
หรือลิงค์ใน LINE Shopping
ในหน้าช่องเราก็ได้
5. #Personal Branding
ปูแล้วโกยเรียบด้วยโฆษณา
สินค้าที่ไม่เป็นที่รู้จัก
ไม่ว่าจะราคาไหน
มันจะขายยากกว่า
ตอนเป็นที่รู้จักเสมอ
ปลูกแบรนด์ให้เป็นกระแส
และหว่านแห
ลากยอดขายด้วยโฆษณา
จะเป็นการปลุกกระแสแบรนด์
ด้วย Influencers
ไม่ใช่ Presenter
ที่เอาภาพมาตัดแปะ
ลงคอนเทนต์เฉยๆ
ปั่นกระแสให้สินค้าเรา
อยู่อันดับต้นๆของ Shopping List
เป็นตัวเลือกแรกๆในการซื้อ
แล้วเอาโฆษณาไปยิงเก็บเกี่ยว
ธุรกิจออนไลน์
จะสร้างตัวตนใช้ influencers ยืนพื้น 1 คน
ที่มีหน้าที่สร้างความต้องการสินค้า
อยู่ที่ว่าเจ้าของแบรนด์จะเป็นเอง
หรือจะใช้คนอื่นๆ
แต่สมัยนี้จะทำระดับ Advance คือ
-ทำโดยรู้ว่าจะดึงดูดลูกค้ากลุ่มไหนมาขายสินค้าอะไร
-ไป Collab กับคนดังเพื่อโปรโมทตัวบุคคลพร้อมกับสินค้า
-มีตำแหน่งคอยเก็บคอนเทนต์วิดีโอในชีวิตประจำวัน
6. #เลิกยิงโฆษณาในมือถือ
แล้วไปเลือกกลุ่มเป้าหมาย
แบบละเอียดในคอมพิวเตอร์แทน
-เลือกโลเคชั่นได้ ตามจังหวักประเทศได้เลย
ซึ่งหลายๆ ธุรกิจ
แค่เลือกโลเคชั่นได้ถูกกับกลุ่มเป้าหมาย
บางธุรกิจก็มีตำแหน่ง
ของหน้าร้านชัดเจนด้วยซ้ำ
แค่นี้ยิง ads โฆษณาแม่นขึ้นเยอะแล้ว
-เลือกความสนใจได้เป็นร้อยๆตัว
ในมือถือเจาะลึกแทบไม่ได้เลย
แล้วก็ยังไม่มีระบบการนำส่งที่เน้นยอดขายแท้จริง
ใน TikTok ads manager
เรายิงความสนใจได้ และจะบอกว่าแม่นมาก
แถมยังยิงตาม Hashtag ได้อีกด้วย
ซึ่งเดี๋ยวจะขยายความไปในข้อถัดไป
7. #แนวทางยิงโฆษณาตาม Hashtag
Tiktok เป็น 1 ใน 2 แพลตฟอร์มที่ยิง
โฆษณาตาม Hashtag ได้
-Twitter และ TikTok
การยิงโฆษณาตาม Hashtag
ช่วยทำให้ยิงโฆษณาเชิงลึกได้
ยกตัวอย่างเช่น
#สิวอักเสบ ก็เป็นการยิงที่ชัดเจน
แยกลงลึกในกลุ่มปัญหาของสิว
-ยิงโฆษณาหา Presenter
เพราะมักจะเป็นคนดัง
ก็ยิงหาแฟนคลับหรือคนที่เห็นสินค้าของเค้าได้
ยกตัวอย่างเช่น #อิงฟ้าชาล็อต
-ยิงโฆษณาหา
คนที่รู้จักแบรนด์ของคุณได้
ซึ่งหลาย ๆ แบรนด์ก็มี hashtag
ของตัวเองติดในระบบโฆษณาแล้ว
ซึ่งถ้าตัวเองไม่ใช้ยิง
คู่แข่งนั่นแหละอาจจะเป็นคนใช้ยิงแทนก็ได้
ตัวอย่างในภาพเป็นของ
แบรนด์โบต้าพีซึ่งขายโปรตีนครับ
-ยิงโฆษณาหา Series ของสินค้าได้
เช่น รุ่นรถยนต์ อย่างผมไปสอนให้กับแบรนด์รถยนต์ยักษ์ใหญ่
ก็จะมีรถ SUV ,รถกระบะ ,รถบรรทุก
ก็แยกตามกลุ่มเป้าหมายกันไปได้เลย
8. Tiktok Shop Marketing
ควรเปิดไว้ 100%
เพราะหลายๆ
คนน่าจะยังไม่ได้ทำ
ตั้งรับเอฟเฟคของการตลาดที่เราลงทุนลงแรงไป
ทำให้การปิดการขายเกิดขึ้นได้แบบ
24 ชั่วโมง ถ้าเรายังสามารถทำให้ลูกค้า
เข้ามาที่หน้าช่องของเราได้ต่อเนื่อง
ลูกค้ากดเข้ามา เลือกซื้อได้เลย
แล้วช่วงนี้ก็มี CODE แจกเรื่อยๆ
ก็ถือว่าเป็นกำไ
สำหรับคนทำธุรกิจออนไลน์มากๆ
กลยุทธ์ที่น่าสนใจ
คือสิทธิ์จำกัด
มากกว่าการจำกัดเวลา
Surprise Promotion
บิ้วให้อยากได้สินค้าต่อเนื่อง
แล้วจำกัดเวลาในการจัดโปรพิเศษ
เพื่อให้ลูกค้าตกลงใจซื้อทันที
9. #LIVE ใน Tiktok แบบ Real Live commerce
-สร้างความต้องการและเก็บ Order ได้ทันที
ไม่ต้องดูดคอมเมนต์ไม่ต้องไป Cf การสั่งซื้อ
ด้วย TikTok Shop
-โปรโมทโฆษณาได้ Inorganic Live
การันตีคนดูได้ระดับนึง
Grand Opening ผ่าน Live มากขึ้น
เพราะ Control จำนวนคนเข้าร่วมได้
-นอกจากนี้ยังมี Creator Marketplace
ให้เลือก ส่งข้อความหา Influencers
ที่เราสนใจจะให้เค้าขายสินค้า
ผ่านระบบการกรอก % ส่วนแบ่งที่ชัดเจน
10. #กลยุทธ์ Up selling สินค้า
ในไลฟ์ให้ได้ยอดขายปังๆ
การขายผ่าน Live บิ้วยอดใหญ่
ได้ง่ายที่สุด
ทำให้ลูกค้า F แบบไม่คิดชีวิต
ให้โฟกัสในการขายเป็นแพค
ไม่ใช่ทีละชิ้น
ดังนั้นสินค้า A,B,C ต้องมัดรวมกันได้
-ใช้ร่วมกัน เช่น รองพื้นกับแป้ง เป็นต้น
-ส่งเสริม ช่วยแก้ปัญหาเดียวกัน
เช่น กันแดด กับครีมหน้าขาว เป็นต้น
ต้องทำการบ้านเรื่องสินค้า การ SET UP
-Live Selling Skill
ทักษะการขายในไลฟ์
แตกต่างจากใน Chat และการอัดคลิป
ต้องจับอารมณ์ลูกค้า
ให้เป็นแบบ Real time บิ้วเก่ง ขยี้ปัญหา
และที่สำคัญ
ต้องเร่งรัดลูกค้าให้เป็น
แพรวพราวในการกระตุ้นให้ชำระเงิน
ณ เวลานั้นเลย
คำนวณโปร คำนวณสิทธิ์มาแล้ว
ขายอย่างจำกัดเท่าไหร่ คนจะแย่งกันซื้อ
เพราะแค่ห่างกัน 1 นาที
ลูกค้าก็เปลี่ยนใจได้แล้ว