อันที่จริงการทำ Search Engine Optimize (SEO)
ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร
แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้หรือเพิ่งเข้ามาสนใจ
ทำ SEO อย่างจริงจัง
วันนี้ฮะผมจะมาแนะนำเครื่องมือ
หาไอเดียสุดเจ๋งอย่าง Google Keyword Planner
Google Keyword Planner คืออะไร?
มันคือเครื่องมือฟรีที่แสนฉลาดเกิดมาเพื่อช่วยคุณ
วางแผนหาคีย์เวิร์ด “ทำเงิน” เพียงแค่นำข้อมูลของสิ่งที่คุณสนใจ
ไปวางไว้ในเครื่องมือมันก็จะช่วย Optimize ความเสี่ยง
ของคีย์เวิร์ดตัวนั้นว่ามันคุ้มค่ากับการ
ที่คุณจะแข่งขันในตลาดนี้หรือไม่
เจาะลึกประโยชน์ 4 ข้อ ที่ Keyword Planner
จะช่วยให้คุณมีค่าคลิกถูกลง...
1. รู้ Keyword แม่นๆก่อนลงสนาม Google SEO
ก่อนที่คุณจะเริ่มลงไปแข่งขันในตลาดที่คุณเล็งเอาไว้แล้ว
การศึกษาข้อมูลก่อนมาลงสนามจริง
จึงถือเป็นการลดความเสี่ยงขาดทุน
ตั้งแต่เริ่มต้นเพียงแค่นำคีย์เวิร์ด
ที่คุณมีในใจอยู่แล้วไปวางใน
Google Keyword Planner
นอกจากเครื่องมือจะช่วย
Optimize คีย์เวิร์ดที่คุณเตรียมมาเองแล้ว
มันยังมี AI ที่แสนรู้
ในการแนะนำคีย์เวิร์กใหม่ๆเข้ามา
ให้คุณได้เลือกใช้เป็นไอเดีย
ซึ่ง AI สามารถหาคีย์เวิร์ด
ให้คุณได้ลึกถึงขั้น Long Tail Keyword เลยครับ
**Long Tail Keyword คือ
คีย์เวิร์ดที่มีความเจาะจงสูงด้วยการเติมคำต่อท้ายคีย์เวิร์ด
หลักที่มีความหมายกว้าง (Broad Keyword)
เข้าไปเพิ่มอีกทำให้หางยาวขึ้น มีความหมายเจาะจงเพิ่มมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น “คอลลาเจน”
ถ้าใส่คีย์เวิร์ดคำนี้ความหมายกว้างมากๆ (Broad Keyword)
เพราะไม่ได้สื่อบัดเจนว่าเป็นคอลลาเจนประเภทไหน
คอลลาเจนจากปลาทะเล
หรือจากแหล่งวัตถุดิบอื่นๆ
แต่ถ้าเป็น “คอลลาเจนจากปลาทะเล
สำหรับผิวพรรณ แบบชงดื่ม โลเกชันกรุงเทพมหานคร
ราคา 390 บาท” คีย์เวิร์ดที่มีรายละเอียดชัดเจน
ถึงจะจัดว่าเป็น Long Tail Keyword ฮะ
“ Long Tail Keywords มีอัตราการแข่งขันต่ำและมีแนวโน้มเกิด Conversion สูง”
2. เทรนด์ไหนมาแรงทำแล้วปังแอดไม่พังตังค์อยู่ครบ
ความปังขั้นที่ 2 ที่ AI ของเครื่องมือนี้สามารถทำให้คุณได้
คือการดูข้อมูลได้ลึกถึงปริมาณการค้นหา
เฉลี่ยใน 1 เดือน เรียกได้ว่าสามารถดูได้ถึง
-ปริมาณการค้นหาเฉลี่ยแต่ละช่วงเวลา
-เทรนด์ที่เคยเป็นกระแสถึง 24 เดือน ย้อนหลัง
(หรือสามารถดูได้มากกว่านั้นในบางกรณีฮะ)
**ปังที่สุดคือยังสามารถ Breakdown ข้อมูลย้อนหลังนี้
ได้ลึกลงไปถึงระดับอุปกรณ์
และโลเกชันที่ลูกค้ากำลังใช้งานอยู่
ทั้งหมดนี้เป็นข้อดีคือสามารถประเมินคู่แข่ง
ว่ามีปริมาณมากหรือน้อยที่กำลังสนใจคีย์เวิร์ด
ตัวเดียวกันกับคุณอยู่
คุณจะได้ลงทุนอย่างเสี่ยงเจ๊งน้อยที่สุดฮะ
3. รู้เทรนด์ย้อนหลังแอดแคมเปญไม่พังอีกต่อไป
ข้อดีของ Google Keyword Planner ข้อนี้คือ
การสามารถรู้ข้อมูลในอดีตเกี่ยวกับ
อัตราการคลิกโฆษณา
ซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรงกับการนำคีย์เวิร์ด
ที่เคยเป็นเทรนด์มาก่อนหน้านี้
แล้วนำไปวิเคราะห์เพื่อให้รู้คีย์เวิร์ดตัวใหม่
ที่จะนำไปทำแคมเปญ Google Ads ให้โฆษณา
ทำงานได้มีประสิทธิภาพยิงได้ถูกเป้าหมาย
แต่ค่าคลิกจะถูกลงมาก
4. ประสิทธิภาพแคมเปญแอดสูงขึ้นเพราะทำ Forecast
Forecast หรือการพยากรณ์ศักยภาพของ SEO ที่เราทำการตลาด
การทำ Forecast เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณา
จากการคาดการณ์ประสิทธิภาพในช่วงเวลาที่คุณกำหนด
โดยอ้างอิงจาก Keyword Idea ที่คุณใส่เข้าไปในตอนแรก
ตัว Forecast จะสรุปค่าออกมาให้คุณคุมงบค่าคลิก
ได้ง่ายขึ้น เช่น …
ค่า Click จำนวนคลิกที่มีคนกดโฆษณาทั้งหมด
ค่า Impressions จำนวนแสดงผลของโฆษณา
ค่า CTR อัตราคลิกเทียบกับการแสดงโฆษณา
#หมอกิม