หยุดสายตาลูกค้าอยู่หมัด
ด้วย “ภาพนิ่ง” หรือ “วิดีโอ” ?
สายตาคนบนออนไลน์
มักหยุดที่อะไรมากกว่ากัน ?
“รูปภาพสิ” มันดึงดูดสายตา
กว่าอะไรทั้งหมดในโลก
“วิดีโอสิ” ใคร ๆ ก็สนใจติดตาม
อยากรู้เรื่องราวมากกว่า
จริง ๆ ที่ผมอยากบอกก็คือ
มันขึ้นกับว่าสินค้าของคุณ
คืออะไรมากกว่าครับ
มันไม่ใช่ทุกสินค้าที่จะเหมาะให้ดู
แค่ภาพนิ่งเฉย ๆ แต่ลูกค้าอยาก
หมุนดูมากกว่า
และไม่ใช่ทุกสินค้าที่จะเหมาะให้ดู
เป็นภาพเคลื่อนไหว เพราะไม่ได้มีอะไร
ให้ลูกค้าต้องสำรวจเพิ่มเติม
(เพิ่มต้นทุนสูงขึ้นเปล่า ๆ ด้วย)
Key สำคัญมันต้องดูครับ
ว่าสินค้าของคุณมี “จุดขาย” อยู่ที่ตรงไหน
ก่อนจะเลือกนำเสนอด้วยคอนเทนต์อะไร
แล้วถ้าอยากรู้ว่าสินค้าลักษณะไหน
เหมาะกับคอนเทนต์รูปแบบใด ?
มาครับ ผมจะไขให้ฟังคร่าว ๆ
สินค้าที่เหมาะกับ “ภาพนิ่ง”
โดยมากจะเป็นสินค้าที่ลูกค้า
จะอยากดู Detail ในความสวยงาม
ความเรียบร้อย ความประณีต
ในด้านต่าง ๆ ซ้าย ขวา หน้า หลัง
ในมุมบน ล่าง แต่ละส่วนทำมาจากอะไร
รวมไปถึงมุมมอง ภาพลักษณ์ที่ปรากฏ
เพื่อนึกภาพผลลัพธ์ของตัวเองออก
เมื่อถึงเวลาที่เอามันมาใช้จริง
ลูกค้าจึงอยากหยุดแช่เพื่อดู
บางทีอยากถ่างหน้าจอเพื่อซูม
เจาะดูให้ลึกที่สุดเลยด้วยซ้ำ
เบื้องต้นนี้จึงเหมาะมากกับ
สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า
นาฬิกา เครื่องประดับต่าง ๆ
ในอีกแนวอย่างเครื่องสำอาง คอสเมติก
ก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยเหมือนกัน
หรือแม้แต่ ที่พัก ที่เที่ยว ลูกค้าก็อยากส่อง
อยากมองเห็นส่วนต่าง ๆ ก่อนจ่ายเงินเสมอ
แต่ถ้าให้พูดถึงสินค้าอีกกลุ่ม
ก็คงหนีไม่พ้นประเภทที่ต้องการเทียบคู่
ให้เห็นผล Before – After
ที่โชว์ความต่างออกมาแบบชัด ๆ เรียล ๆ
ก็หยุดสายตาลูกค้าได้ดีเลยครับ
แล้วทีนี้ก็มาดูสิว่าสินค้าของคุณ
จัดอยู่ในแนวนี้บ้างหรือเปล่า ?
สินค้าที่เหมาะกับ “วิดีโอ”
ถ้าความโดดเด่นของสินค้าคุณ
คือ Function การใช้งาน
อาจเป็นในแง่ของ...
Performance ที่ทรงพลัง
ความรวดเร็ว พละกำลังสูง
ความคล่องตัว ใช้งานง่าย
พกไปไหนก็สะดวก หาที่เก็บง่าย
ที่แคบในซอกหลืบก็เข้าไปได้
ทำความสะอาดได้ล้ำลึก รวดเร็ว
เช็ดปาดให้ดูสีหลุดติดออกมาเป็นปื้น
ความสกปรกหายไปเลยหมดจด
หรือเรื่องของความทนทาน
แข็งแรงของตัววัสดุ
หล่นจากตึก 7 ชั้นก็ไม่พัง
แม้แต่สินค้าที่ต้องเล่าเรื่องราว Story
หรือแสดงกรรมวิธีที่ช่วยเสริม Value
ถ้าสินค้าของคุณเข้าข่าย
ในแนวอย่างที่ผมว่ามาล่ะก็
“คอนเทนต์วีดีโอ”
เกิดมาเพื่อนำเสนอมันเลยครับ
สรุปแล้วคอนเทนต์ทั้ง 2 แบบ
มันหยุดสายตาลูกค้าได้ทั้งนั้น
ขึ้นกับว่าสินค้าของคุณ
ลูกค้าต้องการเห็นอะไร ส่องดูอะไร
ในรูปแบบไหนที่เอื้อต่อการรับรู้ของเค้า
ดังนั้นขอแค่คุณรู้จักสินค้า
และลูกค้าของตัวเองอย่างดี
เท่านี้ก็มีชัยในการนำเสนอ
ไปกว่าครึ่งแล้วครับ
ให้เวลาคุณไปทำการบ้าน
กับสินค้าของตัวเองก่อน
#แล้วเดี๋ยวคราวหน้ามาเจาะดูกันว่า
คอนเทนต์แต่ละแบบที่เราคุยกันมา
จะนำเสนออะไร ประมาณไหน ยังไงดีครับ