เคยสงสัยไหมครับว่า...
“ทำไม Sales Content บางตัว
ถึงทำยอดปังได้ปังดี ?”
ในขณะที่ส่วนใหญ่
ได้ไม่ถึงครึ่งของมันด้วยซ้ำ
ยังไม่ต้องไปพูดถึง
แบบที่เป็นคลิปวิดีโอ Advance
อะไรนั่นหรอกนะครับ
มาว่ากันด้วยคอนเทนต์
ที่เป็น “รูปภาพ + ข้อความ”
ท่าเบสิกมาตรฐานทั่วไปนี่แหละ
แค่คุณทำให้ถูกตาม Process
ก็สามารถพลิกยอดขาย
จากหน้ามือเป็นหลังมือได้แล้วครับ
แต่ประเด็นคือ...
แม่ค้าออนไลน์ส่วนใหญ่
มักทำผิด Process กัน
ไล่มาตั้งแต่วิธีคิดขั้นแรก
จนออกมาเป็น Sales Content
อย่างที่เห็นตอนสุดท้าย
ซึ่งคงต้องบอกตามตรงเลยว่า...
ถ้าคุณออกสตาร์ทผิดจุด
ก็ยากที่จะเข้าเส้นชัยแล้วครับ
ดังนั้นผมว่ามันน่าจะดีกว่า
ถ้าคุณได้รู้ว่าจริง ๆ แล้ว
คนทำคอนเทนต์ “มืออาชีพ”
เค้ามี Process กันยังไง
ถึงได้ผลกับลูกค้าเป็นอย่างดี
วันนี้ผมจึงเอามาให้ดู
ทั้งหมดเลยครับ
ทั้ง Process ที่แม่ค้าออนไลน์
ส่วนใหญ่ทำกันผิด ๆ
และ Process ที่มืออาชีพ
เค้าทำกันแล้วเวิร์ค
เพื่อที่คุณจะเอาไปต่อยอดใช้
กับ Sales Content ของตัวเอง
ว่าแล้วไปดูกันเลยครับ
A. Process ที่พาหลงทาง
แม้จะจริงอยู่ว่า
ใน Sales Content นั้น
“รูปภาพ” คือส่วนประกอบ
ที่สำคัญที่สุดอันดับ 1
แต่ใน Process
มันไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องทำ
เป็นอย่างแรกสุดหรอกนะครับ
ดังนั้นก่อนอื่นเลย...
เราต้องมาปรับจูน Mindset
ให้เข้าใจตรงกันซะก่อน
เพราะตรงนี้คือจุดที่คนจำนวนมาก
ตกม้าตายกันตั้งแต่ออกตัว
ที่โดยมากพอรู้ว่า
รูปภาพคือสิ่งสำคัญที่สุด
ดึงดูดสายตาของลูกค้า
ให้หันมาสนใจได้มากที่สุด
ก็จะพยายามเอารูปมาก่อน
ตั้งกล้องถ่ายรูปก่อนเลย
แล้วก็วุ่นอยู่กับการเลือกเฟ้นรูป
ที่น่าจะกระทบจอประสาทตา
ลูกค้าได้มากที่สุด
จากนั้นค่อยพยายาม
เขียนข้อความประกอบ
อธิบายให้ล้อตามไปกับรูป
ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาป
อะไรหรอกนะครับ
การต่อจิ๊กซอว์ทั้ง 2 ชิ้นนี้
ให้ประสานสอดคล้องกันลงตัว
เป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว
แต่ที่ผมจะบอกคือ
มันผิดขั้นตอนเท่านั้นเอง
เพราะหากคุณเอารูป
ขึ้นมาเป็นตัวตั้ง
จะทำให้คุณอธิบายสื่อออกไป
ไม่ได้มากเท่าที่ควร
ขายได้ไม่เต็มศักยภาพ
เพราะไม่ได้วางแผนมาก่อน
ทั้งที่จริงคุณน่าจะนำเสนอขาย
ได้อย่างเข้าเป้ากว่านี้
แทนที่รูปภาพของคุณ
จะทำหน้าที่ขายได้อย่างน่าสนใจ
แต่กลับกลายเป็นว่า
คุณตกเป็นทาสของมัน
ถูกรูปภาพจำกัดกรอบไว้
ไม่สามารถนำเสนอได้อย่างเต็มมิติ
งั้นลองนึกตามผมดูก็ได้ครับ...
ภาพประกอบสินค้าสกินแคร์
ที่แสดงถึงใครสักคนที่ผิวขาว ใส
หรือภาพผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก
ที่ให้เห็นถึงหุ่นผอมเพรียว
ด้วยภาพที่ออกมาเพลน ๆ แบบนี้
คุณจะนำเสนอให้ ‘ลึก’ ไปกว่านี้
ได้ยังไงบ้าง ?
เพราะคำว่า “ลึก” ที่ผมว่า
มันสำคัญมากเลยนะครับ
เป็นการสื่อที่ ‘ลึก’ ลงไป
ถึงก้นบึ้งความต้องการ
ที่อยู่ในใจลูกค้าจริง ๆ
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วงงล่ะก็
ไม่ต้องกังวลไปนะครับ
อ่านต่อไปเดี๋ยวคุณจะ
เคลียร์ชัดขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะถ้าคุณอยากได้ Sales Content
ที่ให้ผลลัพธ์แตกต่างไป
ก็ต้องอาศัยวิธีคิด
และ Process การทำงาน
ที่เหล่ามืออาชีพ
เค้าซัดกันเป็นประจำครับ
B. Process แบบ Professional
มืออาชีพเค้าก็รู้แบบเดียวกับ
ที่คุณรู้นั่นแหละครับ
ว่า “รูปภาพ” นั้นสำคัญแค่ไหน
เพียงแต่เค้าจะไม่รีบโฟกัส
พุ่งตัวเข้าใส่มันทันที
แต่ที่เค้าจะทำก็คือ...
คิด วางแผน วางคอนเซ็ปต์
ออกมาเป็น Sequence
กลั่น Story เรื่องราวที่จะสื่อ
ให้ถ่ายทอดได้อย่างน่าสนใจ
เรียกว่าทำสิ่งที่อยู่ในหัวให้จบก่อน
แล้วค่อยดึงมันออกมาทีเดียว
ไม่ใช่แค่ว่าลงมือทำไปก่อน
แล้วค่อยไปหาไอเดียเอาดาบหน้า
เพราะเมื่อมี Concept ที่ชัด
มี Story และวิธีที่จะเล่าชัด
ทุกขั้นตอนต่อจากนี้ไป
จะไม่มีหลงทางอีกแล้วครับ
การถ่ายรูป ก็จะไม่ได้เอาแค่สวย
แต่เอาให้ ‘สื่อ’
สื่อถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
อยากเห็น อยากได้จริง ๆ
การเขียน Copy ก็ไม่ได้เอาแค่คม
แต่เอาให้ ‘โดน’
โดนตรงใจลูกค้า
ตามที่เค้าคิดไว้ มองหาอยู่
แล้วมันจะไม่ออกมาเป็น
Sales Content ที่ดูแบน ๆ
แต่มีมิติที่ ‘ลึก’ ถึงความรู้สึก
และความต้องการของลูกค้า
อย่างเช่น...
ถ้าวาง Concept ไว้แล้วว่า
สกินแคร์ของคุณจะพูดถึง
“ผิวที่เปล่งปลั่ง ใส่ชุดอะไรก็สวยปิ๊ง”
คุณจะเห็นภาพในหัวชัด
ตั้งแต่ยังไม่ถ่ายรูปเลยด้วยซ้ำ
และแน่นอนว่าข้อความที่ตามมา
ก็ต้องสื่อไปทางนี้นี่แหละ
แล้วลูกค้าก็จะเห็นภาพตัวเองชัดด้วย
ว่าใช้สินค้าของคุณแล้ว
เค้าจะได้อะไรที่ตามมาแบบนี้
หรือ...
คุณจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก
ของคุณใน Concept ว่า...
“แม้จะเป็นคุณแม่
แต่หุ่นก็แซ่บได้อยู่”
เพียงเท่านี้ก็พอจะได้ภาพลาง ๆ
ขึ้นมาบ้างใช่ไหมล่ะครับว่า...
น่าจะสื่อไปถึงใคร
มีภาพออกมาเป็นแบบไหน
และข้อความประกอบยังไง
ที่โดนใจตรงกับกลุ่มลูกค้าของคุณ
คุณจึงสังเกตได้เลยครับว่า...
มันจะไม่ใช่การเลือกรูปมา
แล้วหาทางเขียนข้อความ
เหมือนพยายามดัดต้นบอนไซ
หรือเขียนข้อความขึ้นมาทื่อ ๆ
แล้วทำรูปขึ้นมาดื้อ ๆ จาก 0
แบบนั้นมันไม่สามารถที่จะ
‘สื่อ’ และ ‘โดน’ ใจลูกค้า
ได้จริง ๆ หรอกครับ
...................................
ทุกอย่างเริ่มจากวิธีคิด
และการเรียงลำดับ Process ที่ถูกต้อง
เพราะถ้าคุณเริ่มถูก
จากนั้นอะไรก็จะถูกหมด
ดังนั้นถ้าคุณอยากทำ Sales Content
ที่จับสายตา กุมใจลูกค้าได้อยู่หมัด
นำมาซึ่งยอดขายที่ดีขึ้นผิดหูผิดตา
ก็ต้องลองเอาทั้งหมดนี้ไปปรับใช้
กับการทำ Sales Content
ครั้งต่อไปดูครับ
แต่ถ้ากลัวว่าจะลืม
ทำไมไม่แชร์ไว้ซะเลยล่ะครับ
ผมรับรองว่ามันดีต่อคุณแน่นอน